นายกฯ ผลักดันเด็กเรียนภาษาท้องถิ่นหลังกำหนดนโยบาย"ภาษาแห่งชาติ"

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ"International Conference on Language, Education, and the Millennium Development Goals" ว่า ประเทศไทยประกอบไปด้วยกว่า 70 ภาษาท้องถิ่น ความหลากหลายดังกล่าวกลายเป็นสมบัติประจำชาติอย่างหนึ่ง รัฐบาลตระหนักดีถึงภูมิหลังความหลากหลายทางภาษาและวัฒนธรรม จึงได้มีการดำเนินการรักษาและส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรมโดยเห็นได้จากหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียนด้วยภาษาถิ่น

เมื่อเร็วๆ นี้ นายกรัฐมนตรีได้อนุมัตินโยบาย 'ภาษาแห่งชาติ' ของราชบัณฑิตยสถานแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งจะดูแลรักษาสิทธิของเด็กในชาติพันธุ์ต่างๆ ให้บรรจุภาษาแม่ของพวกเขาทุกคนในหลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียน ซึ่งเชื่อมั่นว่าการมีภาษาแม่เป็นหนึ่งในหลักสูตรของโรงเรียน จะช่วยให้เด็กนักเรียนมีผลการเรียนที่ดีขึ้น และการส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาไทย ในขณะที่การอนุรักษ์ภาษาและวัฒนธรรมท้องถิ่น จะช่วยให้เรามีความเป็นเอกลักษณ์

"ขณะนี้อยู่ะหว่างการเสนอคณะรัฐมนตรี กำหนดแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อดูแลนโยบายภาษาได้นำไปสู่ภาคปฏิบัติในบริบทต่างๆ ทั้งการศึกษา การดูแลสุขภาพ การค้าในท้องถิ่น และ ความมั่นคงของมนุษย์" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการยังได้ร่วมมือกับหลายหน่วยงาน ทั้งในระดับท้องถิ่น และระดับองค์การระหว่างประเทศในโครงการส่งเสริมการศึกษาภาษาแม่ที่มากกว่าหนึ่งภาษา โดยเฉพาะบริเวณชายแดนของประเทศ แถบภาคเหนือ ภาคตะวันตก และ ภาคใต้ เป็นต้นแบบโครงการของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยนักเรียนในกลุ่มโรงเรียนทดลองจะได้เรียนการอ่านการเขียนภาษาแม่ของพวกเขา เช่น ปัตตานี มาเลย์ และได้ใช้ภาษาเหล่านี้ เป็นสะพานเชื่อมไปสู่ภาษาไทย โดยเยาวชนได้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน มีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น และความสามารถต่อการใช้ภาษาไทยได้เพิ่มขั้นกว่าร้อยละ 35 มากกว่าเด็กนักเรียนที่เรียนในระบบภาษาเดียว นอกจากความสามารถด้านภาษาที่เพิ่มขึ้น ยังได้เห็นความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และวิชาอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นด้วย

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การศึกษาคือหนึ่งในนโยบายสำคัญอันดับของรัฐบาล โดยมีมาตรการในการกระจายโอกาสทางการศึกษาอย่างกว้างขวางให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ครอบครัวที่มีเด็กในวัยศึกษา เพื่อมั่นใจได้ว่านักเรียนไทยสามารถเรียนฟรี 15 ปี