นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย และคณะ เดินทางลงไปตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยธรรมชาติที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี โดยนายนิพนธ์ นาราพิพัฒน์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ให้การต้อนรับและกล่าวรายงานว่า สถานการณ์อุทกภัยและวาตภัยที่บ้านดาโต๊ะ ซึ่งมีที่ตั้งเป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพประมง โดยถูกพายุดีเปรสชั่นพัดถล่มนานกว่า 3 ชั่วโมง ระหว่างเกิดเหตุศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้แจ้งเตือนชาวบ้านให้ออกไปหลบที่มัสยิด ซึ่งชาวบ้านได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีจึงไม่มีผู้เสียชีวิต
ส่วนความเสียหายนั้นมีบ้านเรือนเสียหาย 43 หลัง จะมีการจ่ายเงินช่วยเหลือให้หลังละ 8 หมื่นบาท และทางจังหวัดยังเร่งให้ความช่วยเหลือโดยการซื้อที่ดินจากภาคเอกชนในราคาถูกเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยให้
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้มอบเงินให้กับญาติผู้เสียชีวิตใน จ.ปัตตานี จำนวน 5 รายๆ ละ 5 หมื่นบาท พร้อมกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ในพื้นที่ภาคกลาง อีสาน และเหนือ ก็ประสบอุทกภัยเช่นเดียวกันซึ่งรัฐบาลได้เร่งให้ความช่วยเหลือ และขณะนี้บางพื้นที่สถานการณ์ยังไม่เข้าสู่สภาวะปกติ แต่ก็เกิดปัญหาอุทกภัยขึ้นอีกในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งจากการลงพื้นที่ไปเยี่ยมประชาชนที่หาดใหญ่ นครศรีธรรมราช รูปแบบของวาตภัยและอุทกภัยก็ไม่เหมือนกัน อย่างพื้นที่บ้านดาโต๊ะก็จะมีความเสียหายของเรือประมง ซึ่งคณะรัฐมนตรี(ครม.)กำลังพิจารณาดูรายละเอียดเกี่ยวกับการช่วยเหลือเช่นเดียวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นในกรณีคลื่นยักษ์สึนามิ ขณะเดียวกันด้านความเดือดร้อนของประชาชน กระทรวงมหาดไทยก็กำลังเร่งเข้ามาดูแล โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะให้ความช่วยเหลืออย่างครบถ้วน มีการปรับหลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือให้ครอบคลุมกับผู้ที่เดือดร้อนในทุกพื้นที่ รวมทั้งจะให้ชุมชนเข้ามาร่วมกันสนับสนุน ปรับปรุง โดยเฉพาะเรื่องของชุมชนและที่อยู่อาศัย เพื่อที่หลังจากเกิดเหตุการณ์แล้วประชาชนจะได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้
"รัฐบาลรับทราบในทุกๆ ปัญหา ซึ่งในเรื่องของอุทกภัย รัฐบาลก็ได้ทราบมาโดยตลอดและพยายามแก้ไข ซึ่งยอมรับว่างบประมาณในการดูแลความเสียหายครั้งนี้มีเยอะมาก จำเป็นต้องมีการปรับเกลี่ยงบมาช่วยประชาชน เพื่อให้ทุกคนได้รับความช่วยเหลือเท่าเทียมกัน ขณะนี้สังคมไทยก็เห็นชัดว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ คนไทยทุกคนได้ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว