อย.ทลายโรงงานผลิตยาปลอมย่านบางขุนเทียนส่งขายชายแดน ยึดของกลาง 20 ลบ.

ข่าวทั่วไป Thursday November 11, 2010 14:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) และ พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(ผบก.ปคบ.) ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมโรงงานผลิตยาปลอมย่านบางขุนเทียน โดยสามารถยึดของกลางมูลค่าราว 20 ล้านบาท

"จากการตรวจค้นพบว่าเป็นโรงงานที่ผลิตยาไม่ได้มาตรฐานจีเอ็มพี นอกจากนั้นยังผลิตยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาจำนวน 8 รายการ และผลิตวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทปลอม 3 รายการ ส่งขายตามร้านค้าส่งยาตามแนวจังหวัดชายแดน มูลค่าเบื้องต้นประมาณ 20 ล้านบาท" นายจุรินทร์ กล่าว

โรงงานดังกล่าวเป็นของบริษัท เภสัชกรรมเรมี่ฟาร์ม จำกัด ตั้งอยู่ที่เขตบางขุนเทียน กทม.เป็นโรงงานผลิตยาขนาดใหญ่เพื่อส่งขายตามร้านขายยาทั่วประเทศ มีผู้ดำเนินกิจการคือ น.ส.พัณณ์ชิตา สิทธิกุลชัยโย ซึ่งโรงงานนี้เป็น 1 ใน 2 โรงงานที่ผลิตยาผิดกฎหมายที่อยู่ในบัญชีดำของ อย. โดยโรงงานแรกได้ดำเนินการจับกุมดำเนินคดีไปแล้วเมื่อไม่นานนี้

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ยาและวัตถุออกฤทธิ์ที่ตรวจพบผิดกฎหมาย 5 รายการ ดังนี้ 1.เลขทะเบียนยาปลอม 2.ยาไม่มีเลขทะเบียน ไม่มีชื่อผู้ผลิต ระบุเพียง Made in Thailand 3.ใช้เลขทะเบียนผู้อื่น เครื่องหมายปลอม แจ้งสถานที่จัดจำหน่ายไม่มีตัวตน 4.วัตถุออกฤทธิ์ฯ ปลอมเครื่องหมายการค้า และ 5.วัตถุออกฤทธิ์ฯ ไม่มีทะเบียน ไม่มีชื่อผู้ผลิต ระบุเพียง Made in Thailand

สำหรับยาปลอมที่โรงงานแห่งนี้ทำการผลิต 8 รายการ ได้แก่ 1.เฟอรัส ซัลเฟต(FERROUS SULFATE) 200 มก. 2.วิตามิน บีคอมเพล็กซ์ วิตามิน บี 1, บี 2, บี6(VITAMIN B-COMPLEX SUGAR COATED) 3.ยาเม็ดวิตามินบี 12 ประกอบด้วย ไซยาโนโคมาลามิน 25 ไมโครกรัม ฉลากแจ้งสรรพคุณบำรุงโลหิต รักษาโรคโลหิตจาง อันเนื่องมาจากขาดวิตามินบี 12 4.ยาเม็ดแล็คเฟล็ก (Lakflex) เป็นยาปฏิชีวนะใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ 5.ยาคลอมิน(CHLORMIN) แคปซูล ไม่มีเลขทะเบียน ใช้เป็นยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก 6.ยาเด็กซ่าเมทาโซนชนิดเม็ด (DEXAMETHASONE TABLETS 1000) เป็นยาที่ไม่มีเลขทะเบียน แต่ระบุ Made in Thailand 7.ยาเม็ดสีเหลือง 5 เหลี่ยม บรรจุอยู่ในซองพลาสติก เป็นยาที่ไม่มีฉลากสรรพคุณ อยู่ระหว่างเตรียมบรรจุลงขวดเป็นยาสำเร็จรูป และ 8.ยาเม็ดสีเหลือง 4 เหลี่ยม บรรจุในขวด ไม่มีฉลาก

ประเภทวัตถุออกฤทธิ์ปลอม 3 รายการ ได้แก่ 1.ยาคลอราซีเปท ไดโปแทสเซียม (Clorazepate dipotassium) รักษาอาการวิตกกังวล เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 4 ปลอม โดยปลอมแหล่งผลิต/ แหล่งจำหน่าย/ทะเบียนถูกยกเลิกไปแล้ว 2.ยาเม็ดไดอะซีแปรม(Diazepam Tablets) เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 4 ปลอม ที่ไม่เลขทะเบียนตำรับ และ 3.ยาดี-5(D-5) เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 4 ปลอม ที่ไม่มีเลขทะเบียนตำรับ

นอกจากนี้ ยังพบยาที่อยู่ระหว่างการผลิตเป็นผงยาและแกรนูล เม็ดยาอยู่ระหว่างเคลือบ และพร้อมเคลือบที่ใช้เตรียมผลิตยาสำเร็จรูป รวมทั้งพบขวดยาน้ำ ซึ่งมีการปิดฉลากเตรียมบรรจุยาน้ำ, ฉลากยาที่ไม่ถูกต้อง, อุปกรณ์ในการผลิตยาหลายรายการ อาทิ เครื่องเคลือบยา, เครื่องซีลพลาสติกใส โดยเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลาง พร้อมอายัดวัตถุดิบ อุปกรณ์การผลิต เครื่องตอก เครื่องโม่ และ เครื่องจักรในการผลิตยาทั้งหมดในโรงงานดังกล่าว

รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า จะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดใน 7 ข้อหา ได้แก่ 1.กรณีผลิตและขายยาโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.กรณีผลิตยาปลอม มีโทษจำคุก ตั้งแต่ 3 ปีถึงตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 10,000-50,000 บาท 3.กรณีขายยาปลอม มีโทษจำคุก ตั้งแต่ 1-20 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท 4.กรณีผลิตและขายวัตถุออกฤทธิ์ฯประเภท 4 โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท 5.กรณีผลิตวัตถุออกฤทธิ์ฯปลอม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-15 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000-300,000 บาท 6.กรณีขายวัตถุออกฤทธิ์ฯปลอม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และ7.กรณีผลิตยาแผนปัจจุบันโดยฝ่าฝืนกฎกระทรวงฯ และประกาศกระทรวงสาธารณสุขฯ มีโทษปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท

"ขอเตือนผู้ที่คิดจะผลิตยาปลอมออกมาจำหน่าย ขอให้เลิกทำ เพราะนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขชัดเจนว่าจะขจัดความไม่ถูกต้องเหล่านี้ให้หมดไป รวมทั้ง อย. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและดำเนินการกับผู้ผลิตที่ขาดคุณธรรม จริยธรรม และขาดความรับผิดชอบต่อสังคม" นายจุรินทร์ กล่าว

ที่ผ่านมา อย.มีการจับกุมดำเนินคดีอย่างต่อเนื่องมาตลอดทั้งปี ทำให้พบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายลดน้อยลง เพราะเป็นนโยบายที่ทำจริงและจับกุมดำเนินคดีจริง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องอาหาร ยา เครื่องสำอาง วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท วัตถุอันตรายต่างๆ แต่ที่ยังมีหลงเหลืออยู่บ้างไม่ได้เกิดจากการด้อยประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งเกิดจากความเห็นแก่ตัวและความไม่รับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการ การขาดคุณธรรม จริยธรรมยังคงมีอยู่ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการต่อไป

"ที่ผ่านมาสามารถจับกุมได้เป็นจำนวนมาก เกิดจากประชาชนผู้บริโภคมั่นใจกับนโยบายและการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข จึงแจ้งเบาะแสมาเป็นจำนวนมาก เมื่อตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีมูลมีการดำเนินการจริงทุกราย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ประชาชนแจ้งเข้ามาจะไม่สูญเปล่า เช่นน้ำปลาปลอม ยาปลอมหลายกรณีที่มาจากความร่วมมือของผู้บริโภค ถือว่างานมีความก้าวหน้าและมีประสิทธิภาพพอสมควร และหวังว่าประชาชนจะให้ความร่วมมือมากขึ้น" นายจุรินทร์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ