นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้มีมติอนุมัติขยายเวลาการจัดหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดไปปฏิบัติงานในอ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลียไปอีก 36 วัน โดยเลื่อนกำหนดกลับถึงฐานทัพเรือสัตหีบ จากเดิมวันที่ 12 ธันวาคม 2553 เป็นวันที่ 17 มกราคม 2554 ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
ทั้งนี้ สมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย บริษัท ศิริชัยมารีน ฟิชเชอรี่ จำกัด บริษัท ไทยรวมสินพัฒนาอุตสาหกรรม จำกัด และบริษัท พี.ที.อินเตอร์ฟิชเชอรี่ จำกัด ได้มีหนังสือถึงผู้บัญชาการทหารเรือขอความอนุเคราะห์กองทัพเรือให้ขยายระยะเวลาในการปฏิบัติภารกิจปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือด้วยอาวุธบริเวณอ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลียของ กองทัพเรือจัดหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด (มปจ.) เพื่อคุ้มครองรักษาความปลอดภัยให้แก่เรือสินค้าและเรือประมงออกไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
เนื่องจากสภาพภูมิอากาศในช่วงเดือนธันวาคม 2553-มกราคม 2554 เป็นช่วงฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ จึงทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีสภาพคลื่นลมสงบ ส่งผลให้มีแนวโน้มที่การปฏิบัติการของโจรสลัดจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางผ่านเส้นทางเดินเรือของเรือสินค้าไทย และการทำประมงนั้นมีแนวโน้มของจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเป็นช่วงที่คลื่นลมสงบเช่นกัน ส่งผลให้แนวโน้มสถานการณ์โจรสลัดในพื้นที่อ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลียจะยังคงความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีแนวโน้มที่จะยุติลงในเวลาอันสั้น
อีกทั้ง ในช่วงเดือนธันวาคม 2553 - มกราคม 2554 จะไม่มีเรือจากกองกำลังของ NATO ลาดตระเวนในพื้นที่อ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลีย ทำให้กำลังที่เหลืออยู่ไม่เพียงพอที่จะแก้ไขสถานการณ์โจรสลัดในพื้นที่
การขยายระยะเวลาปฏิบัติการของ มปจ.เพื่อคุ้มครองเรือไทยและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างต่อเนื่องในครั้งนี้ เป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านความมั่นทางทะเล อีกทั้งยังส่งเสริมบทบาทของประเทศไทยในเวทีโลก ซึ่งเมื่อการปฏิบัติภารกิจของกองทัพเรือสิ้นสุดลง และไม่มีกำลังทางเรือของกองทัพเรือปฏิบัติการในพื้นที่ประเทศไทยจะยังคงมีคณะนายทหารจากกองทัพเรือทำหน้าที่ประสานในพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือเรือไทยที่ประสบเหตุได้ทันต่อเหตุการณ์