อธิบดีกรมปศุสัตว์ คาดปีนี้จะสามารถส่งออกเนื้อสัตว์ปีกได้ในปริมาณกว่า 4.2 แสนตัน คิดเป็นมูลค่าเกือบ 6 หมื่นล้านบาท หลังสามารถควบคุมสถานการณ์ภายในประเทศให้ปลอดจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกได้นานกว่า 2 ปีแล้ว
"ตามที่ได้ตรวจพบโรคไข้หวัดนกในประเทศไทยครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2551 ซึ่งเป็นระยะเวลาเกินกว่า 2 ปีแล้ว ส่งผลให้ประชาชนมีความปลอดภัยต่อการเป็นโรคไข้หวัดนกและสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกไปยังประเทศคู่ค้ามูลค่ามากกว่า 60,000 ล้านบาทต่อปี" นายปรีชา สมบูรณ์ประเสริฐ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ระบุในเว็บไซต์
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้การควบคุมโรคไข้หวัดนกประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพนั้นมาจากรัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และมีแผนยุทธศาสตร์ที่บูรณาการการทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของเกษตรกรในการเฝ้าระวังโรคในพื้นที่หรือในชุมชนของตนเอง ซึ่งมีเครือข่ายการเฝ้าระวังโรคมากกว่า 8 แสนราย ทั้งอาสาสมัครปศุสัตว์ อาสาสมัครสาธารณสุข กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น โดยใช้แนวทาง "รู้โรคเร็ว ควบคุมโรคเร็ว และป้องกันไม่ให้โรคเกิดขึ้น" และมีกิจกรรมรณรงค์ค้นหาโรคไข้หวัดนกในสัตว์ปีกแบบบูรณาการ(X-ray) กิจกรรมรณรงค์ทำความสะอาดและทำลายเชื้อโรคในพื้นที่เสี่ยง กิจกรรมจัดระบบการเลี้ยงสัตว์ปีกให้มีความปลอดภัยและป้องกันโรคได้เป็นมาตรการที่สำคัญในการส่งผลสำเร็จดังกล่าว
"การที่ประเทศไทยมีระบบการป้องกัน ควบคุมโรคไข้หวัดนกที่เป็นตามหลักสากล และนำมาปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ประเทศคู่ค้าเกิดความเชื่อมั่นและนำเข้าสินค้าผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจากประเทศไทย" นายปรีชา กล่าว
โดยในปีนี้คาดว่า ไทยจะมีปริมาณส่งออกเนื้อสัตว์ปีกจำนวน 426,500 ตัน คิดเป็นมูลค่า 58,131 ล้านบาท แบ่งเป็น เนื้อสัตว์ปีกปรุงสุก 56,858 ล้านบาท และเนื้อสัตว์ปีกสด 1,273 ล้านบาท
นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขอยกเลิกการห้ามนำเข้าเนื้อสัตว์ปีกสดของสหภาพยุโรป และญี่ปุ่น โดยต้นปีหน้าทางเจ้าหน้าที่จากสหภาพยุโรปจะมาตรวจประเมินตามคำขอของประเทศไทยด้วย
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า แม้ประเทศไทยจะไม่พบการระบาดโรคไข้หวัดนกแล้วก็ตาม แต่ในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งประเทศจีน เวียดนาม กัมพูชา ลาว พม่า ยังมีการเกิดโรคอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดประเทศฮ่องกงตรวจพบคนติดเชื้อโรคไข้หวัดนกแล้ว 1 ราย หลังจากพบผู้ป่วยรายสุดท้ายตั้งแต่ปี 46 ประกอบกับระยะนี้เป็นช่วงที่เข้าสู่ฤดูหนาว และมีนกอพยพเข้ามาสร้างรังวางไข่ในประเทศไทย
"กรมปศุสัตว์ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศในการเข้มงวดมาตรการเฝ้าระวังควบคุมโรคไข้หวัดนกต่อไป และให้มีการประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคไข้หวัดนกระดับจังหวัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสรุปสถานการณ์และวางแผนการเฝ้าระวังควบคุมโรคให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเข้าใจ และปฏิบัติเป็นไปในแนวทางเดียวกัน" นายปรีชา กล่าว
นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ยังขอความร่วมมือจากเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกให้หมั่นดูแลสุขภาพสัตว์ปีกกลางคืนให้เข้าเล้าหรือโรงเรือนทุกตัว เสริมวิตามินและแร่ธาตุ รวมทั้งฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิภายนอกและภายในตามโปรแกรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สัตว์ปีกมีสุขภาพแข็งแรง หากพบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติโปรดแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. อาสาสมัครปศุสัตว์ ปศุสัตว์ตำบลในพื้นที่ทันที หรือโทรแจ้งสายด่วนของกรมปศุสัตว์ที่หมายเลขโทรศัพท์ 085-660-9906