นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ICT)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้อนุมัติหลักการในการจัดตั้งธนาคารไปรษณีย์เพื่อสินเชื่อรายย่อย ทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท รูปแบบการดำเนินกิจการจะเป็นการต่อยอดจากโครงการหนี้นอกระบบ เป้าหมาย 4-18 ล้านคน เน้นการปล่อยสินเชื่อเพียงอย่างเดียว ไม่มีการรับฝากเงิน โดยวงเงินปล่อยสินเชื่อ 10,000 บาท/ราย คาดว่าเปิดดำเนินการประมาณเดือน ก.พ.54
ทั้งนี้ หลังจากที่ประชุม ครม.อนุมัติในหลักการในวันนี้แล้ว บริษัท ไปรษณีย์ไทย (ปณท.)จะไปดูแลเรื่องแนวทางการจดทะเบียนให้รอบคอบ การจัดตั้งบริษัท การสรรหากรรมการ ผู้บริหาร ตลอดจนพนักงานเข้ามาดำเนินกิจการ
นายกรณ์ จาติกวณิช รม.คลัง กล่าวว่า ธนาคารไปรษณีย์ที่ ครม. มีมติอนุมัติในหลักการในการจัดตั้งในวันนี้จะเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่อยู่ในสังกัดกระทรวงการคลัง โดยการดำเนินงานจะเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำทางด้านเศรษฐกิจในสังคม โดยต้องการให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินได้ โดยตั้งเป้าว่าเบื้องต้นจะเปิดให้บริการ 10 สาขาในทุกภาคทั่วประเทศ โดยคัดเลือกจากจังหวัดที่มีประชากรยากจนมากที่สุด รวมถึงมีปัญหาในการเข้าถึงแหล่งทุนมากที่สุด
"ธนาคารไปรษณีย์จะมีหน้าที่ดูแลและส่งเสริมการออม รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงิน โดยประชากรหลายสิบล้านคนที่ไม่สามารถกู้ยืมจากสถาบันการเงินได้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมให้ประชาชนที่ไม่มีหลักประกันและไม่มีรายได้สม่ำเสมอ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินได้"
นายกรณ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ กระทรวงการคลังและกระทรวงไอซีทีจะตั้งคณะกรรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อพิจารณาเรื่องการจดทะเบียนบริษัทให้เรียบร้อย พร้อมกับเปิดทางให้ธนาคารไปรษณีย์สามารถหาผู้ร่วมทุนเข้ามาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการบริการทางการเงินแก่ประชาชน ซึ่งอาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ แต่จะต้องมีความเชี่ยวชาญเรื่อง Micro finance
ทั้งนี้ คาดว่าธนาคาไปรษณีย์จะสามารถเปิดให้บริการแก่ประชาชนได้ราวต้นปี 54 มีเป้าหมายในการให้สินเชื่อแก่ประชาชน 10,000 บาท/ราย ไม่จำเป็นต้องมีการค้ำประกันจากผู้ที่เป็นข้าราชการ และจะให้ประโยชน์มากกว่าที่ประชาชนจะไปกู้เงินนอกระบบ มีการทวงถามหนี้ที่ดีกว่า รวมถึงอัตราค่าบริการต่างๆ ก็อยู่ในกรอบที่กฎหมายกำหนด โดยมีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสินเป็นผู้สนับสนุนการเงินให้ธนาคารไปรษณีย์นำมาปล่อยกู้ให้แก่ประชาชนรายย่อยจนกว่าธนาคารไปรษณีย์จะมีศักยภาพเพียงพอที่จะระดมทุนได้ด้วยตัวเอง