นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการรายงานสภาพอากาศและภาวะปริมาณน้ำฝนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า ในปีนี้ภาวะภัยแล้งจะไม่รุนแรงนักและถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ขณะที่ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 70% ของความจุอ่าง ซึ่งทางกรมชลประทานได้ทำการวางแผนการจัดสรรน้ำให้เหมาะสมกับการปลูกพืชฤดูแล้งทั้งประเทศจำนวน 15.29 ล้านไร่ ให้เหมาะสมต่อปริมาณน้ำต้นทุนไว้เรียบร้อยแล้ว
โดย ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 มีปริมาณน้ำต้นทุนสามารถใช้การได้จำนวน 28,647 ล้านลูกบาศก์เมตร และได้วางแผนการจัดสรรน้ำทั่วประเทศจำนวน 15,417 ล้านลูกบาศก์เมตร แบ่งเป็นความต้องการในภาคการเกษตรจำนวน 11,353 ล้านลูกบาศก์เมตร และนอกภาคเกษตรอีก 4,064 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งขณะนี้กรมชลประทานได้จัดสรรน้ำไปแล้วประมาณ 3% ของปริมาณน้ำที่จะดำเนินการทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานจะประสานงานร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยในเรื่องการจัดสรรน้ำอย่างใกล้ชิด รวมถึงชี้แจงทำความเข้าใจกับเกษตรกรในการเพาะปลูกให้เป็นไปตามแผนการปลูกพืชฤดูแล้งเพื่อไม่ให้กระทบต่อการเลื่อนทำนาปีอย่างเช่นที่ผ่านมา
นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯยังได้แผนเตรียมรับสถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตรประจำปีงบประมาณ 2554 ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยได้มีการนำแนวทางการให้ความช่วยเหลือในปีที่ผ่านมาเพื่อนำมาปรับแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งการเตรียมการก่อนเกิดภัย ระหว่างเกิดภัย และหลังเกิดภัย โดยวางมาตรการดำเนินการตามช่วงภัยที่แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 เดือนตุลาคม 2553 — มีนาคม 2554 และระยะที่ 2 คือ เดือนเมษายน — กันยายน 2554
สำหรับความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยซึ่งในครั้งนี้กระทรวงเกษตรฯได้เร่งรัดดำเนินการได้อย่างรวดเร็วกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาค่อนข้างมาก และเป็นไปตามแผน โดยขณะนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ได้โอนเงินช่วยเหลือให้แก่เกษตรกรแล้วประมาณ 12,000 ล้านบาท เกษตรกรจำนวน 487,082 ราย