สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยถึงผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนต่อการชุมนุมของเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติที่บริเวณถนนพิษณุโลก พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ 64.81% มองว่าเป็นการไม่สมควรที่กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติจะเข้าชื่อถวายฎีกาเพื่อชี้ข้อหาร้ายแรงว่ารัฐบาลสมคบคิดกับรัฐบาลต่างชาติอันเป็นเหตุให้เสียดินแดน โดยเห็นว่าการยื่นฎีกาดังกล่าวจะเป็นการรบกวนเบื้องพระยุคลบาท ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการจะดีกว่า อีกทั้งไม่อยากเห็นคนไทยด้วยกันต้องมาขัดแย้งกันเอง
อย่างไรก็ดี ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าการที่กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติต้องออกมาประท้วงกรณี 7 คนไทยถูกกัมพูชาจับกุมตัวนั้น เป็นเพราะมีผลมาจากการดำเนินการของรัฐบาลยืดเยื้อและไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร
สาเหตุที่ประชาชนคิดว่าเหตุการณ์ที่ยืดเยื้อ อันดับแรก เพราะรัฐบาลยังรอดูท่าที กลัวเสียเปรียบ เพลี่ยงพล้ำ ไม่กล้าทำอะไรมาก และมีผลมาจากความขัดแย้งเรื่องเขาพระวิหาร, อันดับสอง รัฐบาลยังไม่มีข้อมูลหลักฐานที่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะต่อรองกับทางกัมพูชา และยังไม่มั่นใจในข้อมูลที่มีอยู่ ส่วนอันดับสาม กัมพูชาไม่ได้เล่นตามระบบ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของฮุนเซน /ผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่มีการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่มองว่า สิ่งที่รัฐบาลควรจะต้องดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว คือ อันดับแรก รัฐบาลควรแสดงท่าทีที่ชัดเจนออกมา มีความกระตือรือร้นที่จะแก้ไขปัญหา ดำเนินการขั้นเด็ดขาดในการนำตัว 7 คนไทยกลับมา รองลงมา นายกรัฐมนตรีควรออกโรงเจรจาด้วยตนเอง หรือผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายควรมีการเจรจาตกลงร่วมกันอย่างเป็นทางการ และอันดับสาม รัฐบาลควรเร่งแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศให้ได้ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุบานปลาย ทุกฝ่ายควรยุติการประท้วงและร่วมมือหาทางแก้ไข
อนึ่ง ผลสำรวจดังกล่าว มาจากความคิดเห็นของประชาชนในกรุงเทพฯ ปริมณฑลต่อกรณีดังกล่าว จำนวนทั้งสิ้น 1,251 คน ระหว่างวันที่ 16-17 ม.ค.54