โฆษกกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เผยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สธ.ลงนามในประกาศกระทรวงฯ เพิ่มด่านตรวจยานำเข้าอีก 6 จังหวัด เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้คนไทยได้บริโภคยาและอาหาร เครื่องสำอางที่มีคุณภาพ เนื่องจากรอบ 4 ปีที่ผ่านมามีแนวโน้มการนำเข้าสินค้าสุขภาพเพิ่มขึ้น 10 เท่าตัว ล่าสุดปี 53 มียอดนำเข้ากว่า 1 ล้านรายการ มูลค่าเกือบ 2.8 แสนล้านบาท
"การนำเข้าผลิตภัณฑ์สุขภาพจากต่างประเทศมีแนวโน้มสูงมากขึ้น โดยในปี 53 มีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจำนวน 1,018,482 รายการ มูลค่ากว่า 279,857 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 49 ถึง 10 เท่าตัว และจากการเฝ้าระวังการนำเข้าที่ด่านอาหารและยาเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่จุดเสี่ยง พบมีการลักลอบนำเข้าวัคซีนไข้หวัดนกจากประเทศจีน จึงคาดว่าอาจจะมีการลักลอบนำเข้าผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ด่านอื่นได้เช่นกัน จึงต้องมีการสกัดผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ปลอดภัยและไม่ได้คุณภาพมาตรฐานไม่ให้เข้าสู่ประเทศไทย" นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษก สธ.กล่าว
โดยด่านตรวจยานำเข้าที่เพิ่มขึ้นอีก 6 จังหวัด ได้แก่ 1.ด่านอาหารและยากันตัง จ.ตรัง 2.ด่านอาหารและยาท่าลี่ จ.เลย 3.ด่านอาหารและยาบางเสาธง จ.สมุทรปราการ 4.ด่านอาหารและยาบ้านประกอบ จ.สงขลา 5.ด่านอาหารและยาสุไหง โก-ลก จ.นราธิวาส 6.ด่านอาหารและยาเชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งที่ผ่านมาทั่วประเทศมีด่านตรวจอาหารและยาอยู่แล้ว 35 ด่าน โดยอยู่ในส่วนกลางและปริมณฑล 13 ด่าน และอยู่ตามจังหวัดต่างๆ อีก 22 ด่าน โดยจะมีผลตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาในช่วงปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา
โฆษก สธ. กล่าวว่า สำหรับในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจยานั้นจะมีหน้าที่กำกับดูแลผลิตภัณฑ์สุขภาพที่นำเข้าจากต่างประเทศ ได้แก่ ยา อาหาร เครื่องสำอาง ให้มีความปลอดภัยและได้คุณภาพมาตรฐาน ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์สุขภาพทุกชนิด ก่อนนำเข้าประเทศจะต้องผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่อาหารและยาประจำด่านตรวจก่อน หากพบว่าไม่ปลอดภัยก็จะทำการอายัดสินค้าทั้งหมด ไม่ให้เล็ดลอดออกมาจำหน่ายได้ โดยปฏิบัติงานควบคู่กับเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร ซึ่งทำหน้าที่ประเมินและจัดเก็บภาษีผลิตภัณฑ์นำเข้าจากต่างประเทศ