กัมพูชาได้ส่งหนังสือถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) แล้ว เพื่อร้องเรียนว่าไทยได้รุกล้ำเข้าไปในเขตแดนกัมพูชาและโจมตีทหารกัมพูชา
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศของกัมพูชา ระบุในจดหมายลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ และส่งถึงนางมาเรีย ลุยซา ริเบโร วิออตติ ประธาน UNSC ว่า ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 ระหว่างเวลา 15.00 - 17.00 น. ทหารไทยประมาณ 300 นายได้เข้ามาในดินแดนของกัมพูชา และได้โจมตีทหารกัมพูชา 3 จุด
"การรุกรานโดยกองกำลังของไทยนี้ ตามมาด้วยการยิงปืนใหญ่ขนาด 130 มิลลิเมตร และ 155 มิลลิเมตร จำนวนหลายลูกลึกเข้ามาภายในดินแดนของกัมพูชาประมาณ 20 กิโลเมตร การโจมตีดังกล่าวได้สร้างความเสียหายรุนแรงจำนวนมากต่อปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นมรดกโลก รวมถึงทำให้ทหารและชาวบ้านกัมพูชาเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บมากกว่าสิบราย
การเผชิญกับการรุกรานอย่างโจ่งแจ้งนี้ทำให้ทหารกัมพูชาไม่มีทางเลือก นอกจากตอบโต้กลับ เพื่อป้องกันตนเองและเพื่อปกป้องอธิปไตยของกัมพูชาและบูรณภาพเหนือดินแดน
นายฮอร์ นัมฮง ระบุในหนังสือดังกล่าวด้วยว่า การกระทำที่เป็นการรุกรานกัมพูชาหลายครั้งของไทยถือเป็นการละเมิดคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2505, กฎบัตรสหประชาชาติ ข้อ 2.3 2.4 และ 94.1, สนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือ (TAC) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ข้อ 2 ซึ่งกัมพูชาและไทยเป็นภาคี และละเมิดข้อ 2.2.c, 2.2.d ของข้อตกลงสันติภาพปารีส ในปีพ.ศ. 2534
รมว.ต่างประเทศกัมพูชายังได้ขอให้ประธาน UNSC ส่งต่อหนังสือนี้ถึงทุกชาติสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในฐานะเอกสารอย่างเป็นทางการ