นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษว่า ในเบื้องต้น จ.ศรีสะเกษได้ประกาศให้พื้นที่ตำบลเสาธงชัย หมู่ที่ 2 3 9 10 12 13 และตำบลรุง หมู่ที่ 5 7 10 อำเภอกันทรลักษ์ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ (ภัยอันเนื่องจากกองกำลังจากนอกประเทศ)
และจากการประสานข้อมูลความเสียหายและการช่วยเหลือกรณีดังกล่าวจากจังหวัดศรีสะเกษ พบว่า ตั้งแต่วันที่ 4 — 6 กุมภาพันธ์ 2554 มีผู้เสียชีวิต 2 ราย (พลเรือน 1 ราย ทหาร 1 ราย) ผู้บาดเจ็บ 16 ราย (พลเรือน 2 ราย ทหาร 14 ราย) บ้านเรือนเสียหายรวม 17 หลัง (ทั้งหลัง 7 หลัง บางส่วน 10 หลัง) อาคารเรียนโรงเรียนบ้านภูมิซรอล เสียหายบางส่วน 2 หลัง
ทั้งนี้ ทางกรมป้องกันฯ ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยจ.ศรีสะเกษ ณ ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษณ์ รวมถึงศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะตามชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อรับบริจาคเงินและสิ่งของที่จะนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
โดยขณะนี้ จังหวัดศรีสะเกษได้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ แก่ผู้ประสบภัยไปแล้วจำนวน 260,000 บาท แยกเป็น เงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต 50,000 บาท เงินชดเชยค่าบ้านที่เสียหายทั้งหลัง จำนวน 7 หลังๆ ละ 30,000 บาท เป็นเงิน 210,000 บาท สำหรับบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายบางส่วน จังหวัดศรีสะเกษจะเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือและจ่ายเงินชดเชยโดยด่วน (เท่าที่จ่ายจริงไม่เกินหลังละ 20,000 บาท) ตลอดจนได้นำผ้าห่มกันหนาวมอบแก่ผู้ประสบภัยแล้วจำนวน 6,970 ผืน
นอกจากนี้ ได้จัดตั้งจุดอพยพรวม 38 จุด ซึ่งมีการอพยพประชาชนไปจุดอพยพแล้วจำนวน 15,638 คน พระภิกษุ 8 รูป
"ขณะนี้ ปภ.ได้สนับสนุนสิ่งสาธารณูปโภค เพื่ออำนวยความสะดวกและให้บริการแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้แก่ รถยนต์ผลิตน้ำดื่ม 2 คัน รถบรรทุกน้ำขนาด 6,000 ลิตร 3 คัน ถังน้ำ 6,000 ลิตร เพื่อให้บริการน้ำดื่มสะอาดสำหรับใช้อุปโภคบริโภคแก่ผู้อพยพ รถไฟฟ้าส่องสว่าง 2 คัน สำหรับใช้ในยามฉุกเฉิน และเต้นท์สนามรวม 300 หลัง เพื่อให้ผู้ประสบภัยใช้เป็นที่พักอาศัยชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะยุติ
ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานสั่งการให้ศูนย์ ปภ.เขต และ ปภ.จังหวัดใกล้เคียงจัดเจ้าหน้าที่ประสานข้อมูลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้พร้อมสนับสนุนจังหวัดที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-เขมรแล้ว