นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาติ (ยูเอ็น) กล่าวเมื่อวานนี้ว่า มีผู้คนกว่า 250,000 คนทั่วโลกที่ต้องเสียชีวิตจากภัยธรรมชาติในปี 2553 ซึ่งนับเป็นอีกปีหนึ่งที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด
ในการอภิปรายของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องการลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ นายบันยังเตือนว่าภัยธรรมชาติในปี 2554 อาจสร้างความเสียหายเทียบเท่ากับปี 2553 โดยกล่าวว่า "มีภัยธรรมชาติที่รุนแรงเกิดขึ้นในออสเตรเลียและบราซิลแล้วในปีนี้"
ในปี 2553 เหตุแผ่นดินไหว คลื่นความร้อน น้ำท่วม และพายุหิมะ ได้ส่งผลกระทบต่อผู้คน 208 ล้านคน และคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 250,000 คน รวมทั้งสร้างความเสียหายถึง 1.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ 192 ประเทศสมาชิกสมัชชาใหญ่ต้องร่วมกันอภิปรายเรื่องมาตรการบรรเทาภัยต่างๆ อาทิ การสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล และเมืองที่ปลอดภัยขึ้น เพื่อลดความเสียหาย
ในการกล่าวเปิดการอภิปราย นายบันกล่าวถึงภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในปีที่แล้ว ทั้งแผ่นดินไหวในเฮติ ชิลี และจีน, น้ำท่วมในปากีสถานและยุโรป, ไฟป่าในรัสเซียและสหรัฐ รวมถึงพายุไซโคลนและพายุโซนร้อนในเอเชีย
"แทบทุกวันต้องมีผู้เสียชีวิต บ้านเรือนถูกทำลาย ผู้คนไร้ที่อยู่อาศัย และมีแต่ความสิ้นหวัง" เขากล่าว "ปี 2553 เป็นปีหนึ่งที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในรอบหนึ่งชั่วอายุคน"
"เด็กๆ เป็นกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด" เขากล่าว "ในปีที่แล้วมีเด็กๆ หลายพันคนเสียชีวิตหลังจากที่แผ่นดินไหว น้ำท่วม หรือเฮอริเคน ได้ทำลายโรงเรียนของพวกเขา เราสามารถป้องกันการสูญเสียชีวิตได้ด้วยการพัฒนาแผนการรับมือภัยพิบัติ รวมถึงสร้างโรงเรียน บ้านเรือน โรงพยาบาล ชุมชน และเมืองให้แข็งแรงกว่าเดิม มาตรการลดความเสี่ยงดังกล่าวจะมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากภาวะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงและภัยธรรมชาติที่รุนแรงเกิดขึ้นบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น" สำนักข่าวซินหัวรายงาน