นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ จะ "ปิดอ่าว"ในอาณาเขตพื้นที่ประมาณ 26,400 ตารางกิโลเมตรบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ในระหว่าง 15 ก.พ.-15 พ.ค. ซึ่งเป็นมาตรการที่ดำเนินการทุกปี เพื่อดูแลรักษาฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ ในฤดูปลาที่มีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน ฝั่งทะเลอ่าวไทย
ตามมาตรการดัวกล่าวกำหนดห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิด ที่อาจส่งผลต่อการแพร่พันธุ์ของพ่อแม่พันธุ์และสัตว์น้ำวัยอ่อนในท้องทะเลอ่าวไทย โดยเฉพาะ ปลาทู ซึ่งเป็นสัตว์น้ำที่มีคุณค่าและความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ ตามประกาศกระทรวงเกษตรฯสามารถที่จะช่วยสร้างความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำในท้องทะเลให้คืนกลับมาได้อย่างยั่งยืน
จากผลการเก็บข้อมูลจำนวนประชากรสัตว์น้ำของกรมประมง ในช่วงหลังฤดูกาลปิดอ่าวฯ เมื่อปี 2553 พบว่าปริมาณการจับสัตว์น้ำได้มีจำนวนมากถึง 43,115.1 ตัน ซึ่งมากกว่าช่วงก่อนปิดอ่าวฯ กว่าเท่าตัว (ก่อนปิดอ่าวฯ จำนวน 20,771.5 ตัน) จึงแสดงให้เห็นว่ามาตรการดังกล่าวนี้สามารถสร้างความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำในท้องทะเลให้คืนกลับมาได้อย่างยั่งยืน ส่งผลให้ชาวประมงมีรายได้ในการประกอบอาชีพได้อย่างดี
"เป็นนโยบายหลักที่กระทรวงเกษตรฯ ให้ความสำคัญในลำดับต้นๆ และเป็นภารกิจหลักของกรมประมงที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง" นายธีระ กล่าว