นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินนโยบายพัฒนาประเทศของรัฐบาลตามข้อเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(ขปส.)หรือกลุ่มพีมูฟ ในหลายเรื่อง ได้แก่ อนุมัติงบประมาณ 167 ล้านบาทไปจัดซื้อที่ดินในพื้นที่ จ.ลำพูนและเชียงใหม่ เพื่อจัดเป็นธนาคารที่ดินและดำเนินการออกโฉนดชุมชน, การตั้งคณะกรรมการศึกษาผลกระทบจากโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล,
ส่วนการพิจารณาเรื่องการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าจะส่งผลให้ปริมาณน้ำที่กักเก็บไว้หมดไปหรือไม่ ที่ประชุม ครม.จึงได้มอบหมายให้คณะกรรมการฯ ที่ตนเองเป็นประธานไปประชุมหาแนวทางที่ชัดเจนอีกครั้งภายใน 45 วัน
นายสาทิตย์ กล่าวว่า หลังมีผลประชุมดังกล่าวออกมาแล้ว ทางกลุ่มพีมูฟจะพอใจแล้วเดินทางกลับหรือไม่คงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกลุ่มพีมูฟเอง แต่ขอยืนยันว่ารัฐบาลได้เดินหน้าให้การช่วยเหลือผู้ชุมนุมอย่างเต็มที่แล้ว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าการที่ ครม.ยังไม่มีมติในเรื่องของแนวทางของเขื่อนปากมูล เนื่องจากต้องการให้เกิดความชัดเจนในปริมาณน้ำถ้าหากต้องมีการเปิดหรือปิดประตูของเขื่อนปากมูล โดยจะต้องไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิตหรือสร้างผลกระทบอื่นๆ ให้กับประชาชนที่เคยกักเก็บน้ำไว้ก่อนหน้านี้ โดยให้ยึดในเรื่องของระดับน้ำที่เหมาะสมเป็นหลัก
"สิ่งที่ผมเสนอขอให้ไปพิจารณาร่วมกันในทุกฝ่ายว่าระดับน้ำเท่าไหร่ที่คิดว่า เป็นตัวที่จะตัดสินใจได้ว่าเราต้องปิดประตู สมมติว่ามีการปิด ถ้าปิดแล้วเราไปสร้างปัญหาให้กับคนที่กักเก็บน้ำในปัจจุบันก็ต้องไปดำเนินการให้เกิดความชัดเจน โดยยึดระดับน้ำเป็นหลัก" นายกรัฐมนตรี กล่าว