กรมชลฯยืนยันน้ำพอใช้ในเขตชลประทาน หากใช้ตามแผนที่ได้วางไว้

ข่าวทั่วไป Wednesday March 9, 2011 10:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กรมชลประทาน ยืนยันว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำแต่ละอ่างฯที่ได้จัดสรรให้พื้นที่ชลประทานทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำเพียงพอใช้อย่างแน่นอน โดยจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า การเพาะปลูกพืชฤดูแล้งและการใช้น้ำจะต้องเป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้อย่างเคร่งครัด หากไม่ปฏิบัติตามแผนที่ได้วางไว้ ปัญหาการขาดแคลนน้ำย่อมเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน จึงขอความร่วมมือจากเกษตรกรให้ใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุดด้วย เพื่อสำรองปริมาณน้ำไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝนที่ใกล้จะมาถึงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

ทั้งนี้ ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ ล่าสุด(8 มี.ค. 54) มีปริมาณน้ำรวมกัน จำนวน 41,663 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 60 ของความจุอ่างฯขนาดใหญ่รวมกันทั้งหมด ปริมาณน้ำน้อยกว่าปี 2553 จำนวน 2,069 ล้านลูกบาศก์เมตร และเป็นปริมาณน้ำที่สามารถนำมาใช้การได้จำนวนทั้งสิ้น 18,182 ล้านลูกบาศก์เมตร

สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนหลักๆ ทั่วประเทศ มีดังนี้ ในเขตภาคเหนือ ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่มีหลายแห่งปริมาณน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากต้องส่งน้ำไปสนับสนุนการใช้น้ำในพื้นที่ด้านท้ายอ่างฯ อาทิ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 6,380 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 47 ของความจุอ่างฯ เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 5,514 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 58 ของความจุอ่างฯ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา จ.เชียงใหม่ มีปริมาณน้ำ 123 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 47 ของความจุอ่างฯ เขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง มีปริมาณน้ำ 85 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 76 ของความจุอ่างฯ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 377 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 49 ของความจุอ่างฯ

ในพื้นที่ภาคอีสาน เขื่อนหลายแห่งปริมาณน้ำลดลงมากเช่นกัน อาทิ เขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี มีปริมาณน้ำ 60 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 51 ของความจุอ่างฯ เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร มีปริมาณน้ำ 221 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 43 ของความจุอ่างฯ เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ มีปริมาณน้ำ 823 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 58 ของความจุอ่างฯ และเขื่อนลำนางรอง จ.บุรีรัมย์ มีปริมาณน้ำ 74 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 61 ของความจุอ่างฯ

ส่วนในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก ปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ปกติ หลายแห่งมีปริมาณน้ำลดลงต่อเนื่อง อาทิ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 441 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 46 ของความจุอ่างฯ เขื่อนทับเสลา จ.อุทัยธานี มีปริมาณน้ำ 41 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 26 ของความจุอ่างฯ เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก มีปริมาณน้ำ 95 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 42 ของความจุอ่างฯ และเขื่อนบางพระ จ.ชลบุรี มีปริมาณน้ำ 82 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 70 ของความจุอ่างฯ และเขื่อนประแสร์ จ.ระยอง มีปริมาณน้ำ 207 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 83 ของความจุอ่างฯ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ