นายกึนเธอร์ เอททิงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการด้านพลังงานของรัฐสภายุโรป เปิดเผยว่า สหภาพยุโรป (อียู) จะดำเนินการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 143 แห่งของประเทศสมาชิกอียู เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยหลังจากเกิดเหตุระเบิดและสารกัมมันตรังสีรั่วไหลที่เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของญี่ปุ่น
การทดสอบดังกล่าวจะครอบคลุมถึงการประเมินความเป็นไปได้ที่จะเกิดความเสียหายหลังจากแผ่นดินไหว และประเมินระดับน้ำในระบบหล่อเย็นที่เตาปฏิกรณ์ โดยการทดสอบภาวะวิกฤตโรงงไฟฟ้านิวเคลียร์จะดำเนินการภายในปีนี้ นอกจากนี้ นายเอททิงเกอร์กล่าวว่า จะมีการทดสอบภาวะวิกฤตที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ตุรกี รัสเซีย และสวิตเซอร์แลนด์
อย่างไรก็ตาม นายเอททิงเกอร์กล่าวว่า การตัดสินใจปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หรือการสั่งระงับการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในอนาคตนั้น จะขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของรัฐบาลและประชาชนในประเทศสมาชิกอียู
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในจังหวัดฟูกุชิม่าของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผลกระทบของแผ่นดินไหวรุนแรง 9.0 ริกเตอร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิตามมา
ปัจจุบัน ยุโรปมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งสิ้น 143 แห่งใน 14 ประเทศ และเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รัฐบาลเยอรมนีได้ประกาศปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 7 แห่งที่สร้างขึ้นก่อนปีพ.ศ.2523 เป็นเวลา 3 เดือน โดยมีเป้าหมายที่จะตรวจสอบความปลอดภัย