ศาสตราจารย์ยูซี เอเวน จากมหาวิทยาลัยเทลอาวีฟ กล่าวว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า เนื่องจากข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยยังไม่มีผลสรุปที่แน่ชัด อย่างไรก็ดี เขาเชื่อว่าสถานการณ์ไม่น่าจะรุนแรงเท่ากับเมื่อครั้งที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลของยูเครนเกิดระเบิดขึ้นเมื่อปี 2529
ขณะเดียวกันเขาเชื่อว่าญี่ปุ่นปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับระดับความเสียหายของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หลายตัวในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
"สำหรับผมแล้ว เห็นอย่างชัดเจนว่าเตาปฏิกรณ์ได้รับความเสียหายตั้งแต่การประกาศครั้งแรก และการหลอมละลายต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น" เขากล่าว
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ระดับสารกัมมันตรังสีบริษัทรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อยู่ที่ 600-800 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง หลังจากที่พุ่งแตะ 1,000 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง ซึ่งไม่เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต แต่อาจจะทำให้คลื่นไส้และทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวลดลง
"เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หลายเตาเกิดรอยแตกและมีการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีสู่สิ่งแวดล้อม และสถานการณ์จะย่ำแย่ลงอีก" ศจ.เอเวน กล่าว
ศจ.เอเวนกล่าวว่า เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์บางตัวในญี่ปุ่นมีอายุถึง 40 ปี และญี่ปุ่นก็ไม่ได้อัพเกรดระบบเลย เนื่องจากการใช้เตาปฏิกรณ์เก่าต่อไปเรื่อยๆ มีต้นทุนที่ต่ำกว่าการสร้างใหม่ สำนักข่าวซินหัวรายงาน