นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เปิดให้เคาน์เตอร์ให้คำแนะนำและบริการทั้งขาเข้าและขาออก โดยจะมีการให้บริการไอโอดีนเม็ดฟรี เฉพาะผู้ที่ต้องเดินทางไปทางตอนเหนือของกรุงโตเกียวที่เป็นพื้นที่เสี่ยง หรือในพื้นที่ที่ประเทศญี่ปุ่นประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยง
ไอโอดีนเม็ดที่แจกครั้งนี้ บรรจุขวด ขวดละ 10 เม็ด มี 2 ขนาด คือ 130 มิลลิกรัมสำหรับผู้ใหญ่ และขนาด 65 มิลลิกรัมสำหรับเด็ก ให้รับประทานเฉพาะเมื่อต้องเดินทางเข้าไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงเท่านั้น โดยแพทย์จะพิจารณาความเหมาะสมในการแจก เนื่องจากไอโอดีนมีความเข้มข้นมากกว่าไอโอดีนที่แจกให้หญิงตั้งครรภ์ถึง 1,000 เท่า ไม่สามารถกินล่วงหน้าเพื่อการป้องกัน และอาจส่งผลข้างเคียงได้
ส่วนบริการประชาชนไทยในส่วนขาเข้าจากประเทศญี่ปุ่นจะมีเคาน์เตอร์บริการให้คำปรึกษาพร้อมกับมีการแจกเอกสารคำแนะนำและแบบประเมินตนเองบนเครื่องบิน หากมีผู้โดยสารที่ประเมินตนเองแล้วไม่มั่นใจว่าได้รับรังสีมาหรือไม่ สามารถขอใช้บริการที่เคาเตอร์ขาเข้าของกระทรวงสาธารณสุขได้ จะมีบริการให้คำปรึกษาแนะนำ และหากตรวจพบว่าเป็นผู้ที่อยู่ในภาวะเสี่ยง ก็จะนำไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลราชวิถีหรือโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี
รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ยาเม็ดไอโอดีนจะช่วยป้องกันรังสีที่จะเข้าไปทำลายต่อมไทรอยด์ ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมสมองและการเจริญเติบโตของร่างกาย สำหรับบุคคลที่ห้ามกินยาเม็ดไอโอดีนมีทั้งหมด 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มที่แพ้ไอโอดีน 2.กลุ่มที่ผิวหนังอักเสบอย่างรุนแรง 3.กลุ่มที่เป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ และ4.กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงที่ให้นมบุตร เพราะหากได้รับไอโอดีนในปริมาณที่มากเกินโดยไม่จำเป็นจะเกิดผลข้างเคียง เช่น เกิดอาการแพ้ คลื่นไส้ อาเจียน เป็นภูมิแพ้ เกิดผื่นลมพิษ ต่อมน้ำเหลืองโต แก้มคางบวม เป็นต้น
อย่างไรก็ตามข้อมูลเพิ่มเติมว่าคืนวานนี้ (16 มีนาคม 2554) ได้สุ่มตรวจสายการบินไทยที่กลับมาจากญี่ปุ่นจำนวน 2 เที่ยวบิน ผลการสุ่มตรวจไม่พบว่าผู้โดยสารมีปริมาณรังสี และตั้งแต่เวลา 24.00 น.วานนี้ถึง 06.00 น.วันนี้ มีเที่ยวบินที่เดินทางกลับจากญี่ปุ่น 9 เที่ยวบิน มีคนไทยทั้งหมด 550 คน ปรากฏว่ามีผู้มาปรึกษาที่เคาน์เตอร์ กระทรวงสาธารณสุข 10 คนไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด
ด้านนพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้ติดตามสถานการณ์การปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีกับกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด พื้นที่ส่วนใหญ่ยังมีความปลอดภัย ยกเว้นในรัศมี 30 กิโลเมตรรอบโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิ ขอให้ประชาชนไทยอย่าตื่นตระหนก
ส่วนทีมแพทย์ไทยที่ปฏิบัติงานอยู่ที่วัดปากน้ำ จังหวัดชิบะ ได้ตรวจสุขภาพคนไทย 6 คนที่อยู่เมืองเซนได จังหวัดมิยางิ ในรัศมี 30 กิโลเมตรจากโรงงานไฟฟ้าดังกล่าว ไม่พบความผิดปกติจากรังสีแต่อย่างใด และผลกระทบจากรังสีที่จะปนเปื้อนในอากาศสิ่งแวดล้อมขณะนี้ยังไม่พบความผิดปกติ ดังนั้นประชาชนยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่มีความจำเป็นต้องกินยาเม็ดไอโอดีน