ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐกล่าวว่าความเสียหายที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ไดอิจิถือเป็น "ภัยร้ายแรง" ต่อประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง แต่ย้ำว่ารัฐบาลสหรัฐไม่มีแผนการเร่งด่วนในการขยายพื้นที่อพยพประชาชนออกนอกรัศมี 80 กิโลเมตรรอบโรงงานดังกล่าวที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น
โอบามากล่าวที่ทำเนียบขาวว่า การที่สหรัฐจะมีคำสั่งให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในรัศมี 80 กิโลกเมตรรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่านั้น จะพิจารณาจากการประเมินทางวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดรอบคอบ
นอกจากนี้สหรัฐได้ขอให้พลเรือนสหรัฐในญี่ปุ่นติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมย้ำว่า "เราไม่คิดว่าระดับของกัมมันตภาพรังสีที่เป็นอันตรายจะแผ่มาถึงสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นแถบเวสต์โคสต์ ฮาวาย อะแลสกา หรือดินแดนของสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิก"
นอกจากนี้ โอบามากล่าวด้วยว่า คณะทำงานของเขาได้ขอให้คณะกรรมการกำกับดูแลด้านนิวเคลียร์ทบทวนมาตรฐานความปลอดภัยของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในสหรัฐ หลังจากเกิดวิกฤตนิวเคลียร์ในญี่ปุ่น พร้อมทั้งย้ำว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของสหรัฐได้รับการยอมรับในเรื่องของความปลอดภัย แต่เมื่อเกิดวิกฤตเช่นนี้ในญี่ปุ่น สหรัฐก็ต้องเรียนรู้จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย
ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐได้ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มความช่วยเหลือด้านนิวเคลียร์แก่ญี่ปุ่นอย่างเร่งด่วน และให้ความช่วยเหลือด้านการกู้ภัยหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิถล่มพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
"ในช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศกเช่นนี้ ชาวญี่ปุ่นจะไม่อยู่อย่างโดดเดี่ยว" เขากล่าวพร้อมทั้งเสริมว่าสหรัฐอเมริกากำลังให้ความช่วยเหลือญี่ปุ่นอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ สหรัฐและญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นต่อกันมากว่า 50 ปี โดยทั้งสองประเทศมีผลประโยชน์ร่วมกันและให้คุณค่ากับความเป็นประชาธิปไตย สำนักข่าวเกียวโดรายงาน