นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพื้นที่แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ที่มักจะประสบปัญหาภัยธรรมชาติอย่างหนักว่า เรื่องนี้จำเป็นต้องมีการหารือในการที่จะย้ายถิ่นฐานของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวออกจากพื้นที่ เพราะสมควรแก่เวลาที่ต้องตระหนักว่าสถานที่นี้ไม่เหมาะสมที่จะตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยเป็นการถาวร คงจำเป็นต้องอาศัยจังหวะนี้ดูแลประชาชน เนื่องจากประมาณปี 2505 ได้เกิดวาตภัยใหญ่ที่ภาคใต้ โดยแหลมตะลุมพุกได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก
ส่วนแนวทางการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในภาคใต้โดยรวมนั้น นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(คชอ.) ได้นัดประชุมกำหนดหลักเกณฑ์และกรอบวงเงินเพื่อเตรียมอนุมัติงบกลางช่วยเหลือผู้ประสบภัยครอบครัวละ 5,000 บาท โดยจะมีการนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า(4 เม.ย.) ซึ่งหลังจากการอนุมัติแล้วก็จะสามารถดำเนินการได้ทันที
อย่างไรก็ดี เช้าวันนี้กองทัพเรือได้จัดส่งเรือหลวงจักรีนฤเบศร์เดินทางไปถึงเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมทั้งได้เตรียมถุงยังชีพ 15,000 ถุง และจะเดินทางต่อไปยังเกาะพงันและเกาะสมุยด้วย ส่วนกรณีที่มีคลื่นลมแรงได้มีการเตรียมเฮลิคอปเตอร์ลงไปช่วยเหลือ รวมทั้งได้สั่งการให้กำลังพลเข้าไปช่วยในการจัดเตรียมถุงยังชีพ หลังจากที่ประชาชนได้บริจาคสิ่งของช่วยเหลือเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่มีการบรรจุของลงถุงยังชีพไม่ทัน ซึ่งทางกองทัพจำเป็นต้องเข้าไปช่วยเหลือ ทั้งนี้ในแต่ละจังหวัดได้มีการจัดทีมเตรียมการซักซ้อม โดยจะให้ผู้ว่าเป็นศูนย์กลางในการดูแลประชาชน