สำนังานความปลอดภัยนิวเคลียร์และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเผยพบสารกัมมันตรังสีไอโอดีน-131 ในตัวอย่างน้ำทะเลที่ได้มาจากบริเวณใกล้เคียงกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ไดอิจิ ที่ระดับสูงถึง 3,355 เท่า ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ความเข้มข้นสูงสุดที่พบในน้ำทะเลจากโรงไฟฟ้าดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า สารกัมมันตรังสีนั้นเกิดขึ้นจากแกนกลางของเตาปฏิกรณ์ซึ่งแท่งเชื้อเพลิงส่วนหนึ่งหลอมละลาย โดยสารกัมมันตรังสีอาจจะรั่วไหลลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิค
นายฮิเดฮิโกะ นิชิยามะ โฆษกสำนักงานฯ กล่าวว่า เรายังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอนที่ทำให้สารกัมมันตรังสีไอโอดีนในระดับสูงรั่วไหลออกมา แต่จากข้อมูลที่ได้รับจากบริษัท โตเกียว อิเล็กทริก พาวเวอร์ ชี้ให้เห็นว่า สารกัมมันตรังสีที่โรงงานได้รั่วไหลออกมาสู่ท้องทะเลในช่วงที่เกิดวิกฤต และย้ำว่า น้ำทะเลที่ปนเปื้อนนี้จะยังไม่เป็นอันตรายกับมนุษย์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่สั่งห้ามทำประมงในรัศมี 20 กิโลเมตรของโรงงาน และสารกัมมันตรังสีก็จะระเหยไปตามกาลเวลา โดยสัตว์หรือพืชในทะเลก็จะซึมซับสารเหล่านี้เข้าไป
โฆษกสำนักงานฯกล่าวต่อไปว่า การติดตามเรื่องข้อมูลการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีเป็นเรื่องที่สำคัญ รวมทั้งการหาสาเหตุให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และใช้มาตรการป้องกันไม่ให้การแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีเกิดขึ้นมากกว่านี้