ญี่ปุ่นออกโรงปกป้องตนเองกรณีระบายน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีลงสู่ทะเล โดยยืนยันว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมให้คำมั่นว่าจะเปิดเผยทุกขั้นตอนของการแก้ปัญหานิวเคลียร์ให้ประชาคมโลกได้รับทราบ
นายทาเคอากิ มัตสึโมโตะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น แถลงข่าวว่า ญี่ปุ่นได้แจ้งให้คณะทูตานุทูตในญี่ปุ่นทราบเรื่องการระบายน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีลงสู่ทะเล หลายชั่วโมงก่อนที่เทปโกจะเริ่มระบายน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกในช่วงเย็นวันจันทร์
นายมัตสึโมโตะย้ำว่า การระบายน้ำที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีในระดับต่ำลงสู่ทะเลนั้น ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ และญี่ปุ่นจะอธิบายให้นานาประเทศทราบถึงมูลเหตุของการใช้มาตรการต่างๆที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า
นอกจากนั้นเขายังยืนยันว่าการระบายน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีลงสู่ทะเล ไม่ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาปี 2529 ว่าด้วยการแจ้งอุบัติเหตุนิวเคลียร์แต่เนิ่นๆ (1986 Convention on Early Notification of a Nuclear Accident) ซึ่งผูกมัดให้นานาประเทศต้องให้ข้อมูลต่างๆ อาทิ เวลาและสถานที่ที่เกิดอุบัติเหตุ รวมถึงการปล่อยกัมมันตภาพรังสี แก่ประเทศที่ได้รับผลกระทบ เมื่อเกรงว่าสารกัมมันตรังสีอาจแพร่กระจายข้ามพรมแดนจนเป็นอันตราย นอกจากนั้นอนุสัญญาดังกล่าวยังเรียกร้องให้มีการรายงานอุบัติเหตุโดยสมัครใจแม้ไม่ใช่อุบัติเหตุที่เข้าข่ายต้องรายงานก็ตาม
นายมัตสึโมโตะกล่าวว่าญี่ปุ่นแจ้งเรื่องสารกัมมันตรังสีรั่วไหลต่อสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ตามที่อนุสัญญากำหนดแล้ว ขณะเดียวกันนายยูคิโอะ เอดาโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น หรือโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ญี่ปุ่นได้ติดต่อไปทาง IAEA แทนที่จะติดต่อไปยังเพื่อนบ้านแต่ละประเทศ เพราะน้ำได้ถูกปล่อยออกจากโรงงานที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งแปซิฟิก โดยนายเอดาโนะกล่าวด้วยว่า การดำเนินการดังกล่าวจะไม่เป็นสาเหตุให้เกิดการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีอย่างทันทีในประเทศเพื่อนบ้าน
นายมัตสึโมโตะกล่าวว่า ญี่ปุ่นพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้เกิดการปนเปื้อนในทะเลน้อยที่สุดตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฏหมายทะเล สำนักข่าวเกียวโดรายงาน