ศูนย์ปฏิบัติการรองรับเหตุฉุกเฉิน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ศปฉ.ปภ.) กระทรวงมหาดไทย สรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างเป็นทางการ ล่าสุดถึงเวลา 07.00 น.วันนี้ มียอดผู้เสียชีวิต 58 ราย ประกอบด้วย นครศรีธรรมราช 25 ราย, พัทลุง 5 ราย, สุราษฎร์ธานี 12 ราย, ตรัง 2 ราย, พังงา 1 ราย, ชุมพร 3 ราย และกระบี่ 10 ราย
ปัจจุบันยังมีสถานการณ์อยู่ 4 จังหวัด ประกอบด้วย นครศรีธรรมราช, พัทลุง, สุราษฎร์ธานี และจังหวัดตรัง รวมทั้งหมด 63 อำเภอ 438 ตำบล 3,863 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 535,432 ครัวเรือน 1,707,115 คน และสถานการณ์ได้คลี่คลายแล้ว 6 จังหวัด คือ พังงา, นราธิวาส, สตูล, ชุมพร, สงขลา และกระบี่
ผลกระทบด้านทรัพย์สิน/สิ่งสาธารณประโยชน์(เบื้องต้น) บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 376 หลัง บางส่วน 3,686 หลัง สิ่งสาธารณประโยชน์เสียหายเบื้องต้น ดังนี้ ถนน 4,684 สาย, ท่อระบายน้ำ 508 แห่ง, ฝาย/ทำนบ 75 แห่ง, สะพาน/คอสะพาน 471 แห่ง, วัด/โรงเรียน 688 แห่ง และสถานที่ราชการ 156 แห่ง
ผลกระทบด้านการเกษตร (ข้อมูลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ วันที่ 6 เม.ย.54) แบ่งเป็น 1.ด้านพืช เกษตรกรเดือดร้อน 189,649 ราย พื้นที่การเกษตรประสบภัย 1,106,150 ไร่ สำหรับยางพารา ประมาณการพื้นที่คาดว่าจะเสียหายจากดินโคลนถล่มไม่เกิน 50,000 ไร่ เนื่องจากสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้ คาดว่าจะไม่อยู่ยาวนานจึงไม่ทำให้ต้นยางพาราที่มีอายุมากเสียหาย
2.ด้านปศุสัตว์ เกษตรกรเดือดร้อน 118,877 ราย สัตว์ที่ได้รับผลกระทบ 5,788,482 ตัว 3.ด้านประมง เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 22,183 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำประสบภัย 36,814 บ่อ คิดเป็นพื้นที่ 58,160 ไร่ และ 4,922 กระชัง คิดเป็นพื้นที่ 88,048 ตารางเมตร เรือประมงประสบภัย 62 ลำ
ผลกระทบด้านการคมนาคม ทางหลวงแผ่นดินมีน้ำท่วม 13 สายทาง จำนวนรวม 13 แห่ง ผ่านไม่ได้ 8 แห่ง(ข้อมูลศูนย์บริหารงานอุบัติเหตุ กรมทางหลวง วันที่ 7 เม.ย.54 เวลา 08.00 น.) ถนนสาย 41 บริเวณสี่แยก Co—op—หน้าสนามบินสุราษฎร์ธานี รถสามารถสัญจรไปมาได้แล้ว ขณะที่สนามบินเปิดให้บริการได้ตามปกติแล้วทุกแห่ง ส่วนรถไฟสายใต้ให้บริการได้ถึงสถานีรถไฟไชยา จำนวน 2 ขบวน (ขบวนที่ 39, 43) และรถไฟสายนครศรีฯ-สุไหงโกลก เปิดให้บริการได้