ศูนย์ปฏิบัติการรองรับเหตุฉุกเฉิน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ศปฉ.ปภ.) กระทรวงมหาดไทย สรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างเป็นทางการ ล่าสุดถึงเวลา 07.00 น.วันนี้ มียอดผู้เสียชีวิต 59 ราย ประกอบด้วย นครศรีธรรมราช 26 ราย, พัทลุง 5 ราย, สุราษฎร์ธานี 12 ราย, ตรัง 2 ราย, พังงา 1 ราย, ชุมพร 3 ราย และกระบี่ 10 ราย
ปัจจุบันยังมีสถานการณ์อยู่ 4 จังหวัด ประกอบด้วย นครศรีธรรมราช, พัทลุง, สุราษฎร์ธานี และจังหวัดตรัง รวมทั้งหมด 26 อำเภอ 136 ตำบล 1,395 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 191,506 ครัวเรือน 461,794 คน และสถานการณ์ได้คลี่คลายแล้ว 6 จังหวัด คือ พังงา, นราธิวาส, สตูล, ชุมพร, สงขลา และกระบี่
ผลกระทบด้านทรัพย์สิน/สิ่งสาธารณประโยชน์(เบื้องต้น) บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 396 หลัง บางส่วน 10,412 หลัง สิ่งสาธารณประโยชน์เสียหายเบื้องต้น ดังนี้ ถนน 5,769 สาย, ท่อระบายน้ำ 679 แห่ง, ฝาย/ทำนบ 189 แห่ง, สะพาน/คอสะพาน 578 แห่ง, วัด/โรงเรียน 694 แห่ง และสถานที่ราชการ 176 แห่ง
ผลกระทบด้านการเกษตร (ข้อมูลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ วันที่ 6 เม.ย.54) แบ่งเป็น 1.ด้านพืช เกษตรกรเดือดร้อน 189,649 ราย พื้นที่การเกษตรประสบภัย 1,106,150 ไร่ สำหรับยางพารา ประมาณการพื้นที่คาดว่าจะเสียหายจากดินโคลนถล่มไม่เกิน 50,000 ไร่ เนื่องจากสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้ คาดว่าจะไม่อยู่ยาวนานจึงไม่ทำให้ต้นยางพาราที่มีอายุมากเสียหาย
2.ด้านปศุสัตว์ เกษตรกรเดือดร้อน 118,877 ราย สัตว์ที่ได้รับผลกระทบ 5,788,482 ตัว 3.ด้านประมง เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 22,183 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำประสบภัย 36,814 บ่อ คิดเป็นพื้นที่ 58,160 ไร่ และ 4,922 กระชัง คิดเป็นพื้นที่ 88,048 ตารางเมตร เรือประมงประสบภัย 62 ลำ
ผลกระทบด้านการคมนาคม ทางหลวงแผ่นดินมีน้ำท่วม 4 สายทาง จำนวนรวม 4 แห่ง ผ่านไม่ได้ 1 แห่งคือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4186 โรงเหล็ก-กรุงชิง ท้องที่ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช คอสะพานขาด ที่ กม.15+125 (ข้อมูลศูนย์บริหารงานอุบัติเหตุ กรมทางหลวง วันที่ 8 เม.ย.54 เวลา 17.00 น.) ส่วนสนามบินเปิดให้บริการได้ตามปกติแล้วทุกแห่ง และรถไฟสายใต้เปิดบริการได้ทุกขบวนเป็นปกติแล้ว