นายยูคิโอะ เอดาโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า ความเสี่ยงจากการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีจำนวนมากจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ประสบปัญหาในจังหวัดฟูกุชิม่านั้น ลดน้อยลงเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์เมื่อเดือนมี.ค.
นายเอดาโนะกล่าวว่า รัฐบาลมองว่า คำสั่งอพยพประชาชนที่อยู่ในรัศมี 20 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ไดอิจินั้น เป็นเรื่องที่เหมาะสม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เหตุแผ่นดินไหว 9.0 ริกเตอร์และคลื่นสึนามิที่ถล่มญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ได้ส่งผลกระทบให้การทำงานของระบบหล่อเย็นที่โรงไฟฟ้าฟูกุชิม่าเกิดขัดข้อง ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีที่ยังคงยืดเยื้อมาจนถึงทุกวันนี้
รัฐบาลได้มีคำสั่งให้อพยพประชาชนในรัศมี 20 กิโลเมตรและแนะนำให้ผู้ที่อยู่ภายในรัศมี 20-30 กิโลเมตรพำนักอยู่ในอาคารหรือออกจากพื้นที่ดังกล่าวโดยสมัครใจ ขณะที่บริเวณดังกล่าวเริ่มขาดแคลนอาหาร ท่ามกลางความวิตกกังวลเรื่องกัมมันตภาพรังสี
ในขณะที่มีความเป็นไปได้เรื่องการขยายพื้นที่อพยพออกไปนั้น รัฐบาลกำลังหารือเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเพื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงด้านการแพร่กระจายของกัมมันตภาพรังสี
ปัจจัยอีกประการหนึ่งที่อยู่ในการพิจารณาคือ ปริมาณสะสมของกัมมันตภาพรังสีในระยะยาว
นายเอดาโนะกล่าวด้วยว่ายังไม่มี "ข้อสรุปสุดท้าย" เกี่ยวกับแผนการทำให้พื้นที่ในรัศมี 20 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้าเป็นเขตห้ามเข้าตามกฎหมาย ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนได้กลับเข้าไปยังบ้านเรือนของตัวเองในพื้นที่เสี่ยงเพื่อเก็บข้าวของและทรัพย์สินของตนเองกันบ้างแล้ว