ปภ.เผย3วันช่วง7วันอันตรายสงกรานต์ ตายแล้ว 116 ราย เจ็บ 1,760 ราย

ข่าวทั่วไป Thursday April 14, 2011 11:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2554 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 13 เม.ย. 54 เกิดอุบัติเหตุทางถนน 733 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 57 คน ผู้บาดเจ็บ 784 คน รวม 3 วัน (11 — 13 เม.ย. 54) เกิดอุบัติเหตุทางถนนรวม 1,626 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 116 คน ผู้บาดเจ็บรวม 1,760 คน ศปถ. สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจเข้มงวดตรวจจับดำเนินคดีเมาแล้วขับ และไม่สวมหมวกนิรภัย โดยเฉพาะบริเวณเส้นทางเข้าออกพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ พร้อมกวดขันรถบรรทุกคนตระเวนเล่นน้ำมิให้ใช้ความเร็วสูง

นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รองประธานกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 13 เมษายน 2554 ซึ่งเป็นวันที่สามของการรณรงค์ “สงกรานต์ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100%" เกิดอุบัติเหตุ 733 ครั้ง เพิ่มขึ้น 166 ครั้ง จากวันที่สามของการรณรงค์ ปี 2553 ที่มีอุบัติเหตุ 567 ครั้ง โดยมีผู้เสียชีวิต 57 คน ผู้บาดเจ็บ 784 คน

สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 45.16 พฤติกรรรเสี่ยงของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเกิดจากการไม่สวมหมวกนิรภัยมากที่สุด ร้อยละ 32.70 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 82.72 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 57.16 บนถนน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 33.15 ทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 32.06 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 — 20.00 น. ร้อยละ 32.88 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน (อายุ 20 — 49 ปี) ร้อยละ 55.41

จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 40 ครั้ง รองลงมา ได้แก่ มหาสารคาม 27 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ ขอนแก่น จังหวัดละ 4 คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 42 คน รองลงมา ได้แก่ เชียงราย 31 คน ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,514 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 70,317 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 759,774 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 97,391 ราย โดยมีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัยมากที่สุด 31,683 รองลงมา ไม่มีใบขับขี่ 27,860 ราย

สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 3 วัน (วันที่ 11 — 13 เม.ย. 54) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,626 ครั้ง ลดลงจากปี 2553 ที่มีอุบิตเหตุรวม 1,994 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตรวม 116 คน ผู้บาดเจ็บรวม 1,760 คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสูด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 78 ครั้ง รองลงมา เชียงราย 77 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ 7 คน รองลงมา เชียงใหม่ 6 คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 85 คน รองลงมา นครศรีธรรมราช 82 คน

นายแพทย์วราชิต กล่าวต่อไปว่า สถิติอุบัติเหตุทางถนนของวันที่ 13 เมษายน 2554 มีสถิติการเสียชีวิตสูงกว่าช่วง 2 วันที่ผ่านมา และจากสถิติของปีที่ผ่านมา พบการเสียชีวิตสูงในช่วงวันที่ 13 — 14 เมษายน 2554 ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการขับขี่รถจักรยานยนต์เล่นน้ำโดยไม่สวมหมวกนิรภัย ประกอบกับมีการเมาสุราและขับรถเร็วเป็นปัจจัยเสี่ยง โดยส่วนใหญ่ผู้ประสบอุบัติเหตุเป็นเด็กและเยาวชนอายุ ต่ำกว่า 20 ปี ประมาณร้อยละ 30

ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจึงได้ประสานให้จังหวัดและและกองบัญชาการตำรวจนครบาลกำชับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจเข้มงวดตรวจจับดำเนินคดีเมาแล้วขับ และไม่สวมหมวกนิรภัยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะบริเวณเส้นทางเข้าออกพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ พร้อมกวดขันรถบรรทุกคนตระเวนเล่นน้ำมิให้ใช้ความเร็วสูง ตลอดจนสั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่สรรพสามิตกวดขันการปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเรื่องสถานที่ห้ามจำหน่าย ห้ามดื่ม รวมถึงการห้ามจำหน่ายแก่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี

"ขอฝากให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครประจำจุดตรวจตักเตือนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากมีอาการมึนเมาให้หยุดผักผ่อนจนกว่าจะสร่างเมา กรณีเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้ประสานผู้ปกครองรับตัวไปพักผ่อนที่บ้าน ทั้งนี้ หากเกิดอุบัติเหตุสามารถแจ้งเหตุและติดต่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยแพทย์กู้ชีพฉุกเฉิน ได้ทางหมายเลข 1669" นายแพทย์วราชิต กล่าว

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดเตรียมทีมกู้ชีพที่สามารถออกปฏิบัติการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ณ จุดเกิดเหตุได้ภายใน 10 นาที พร้อมจัดทีมแพทย์พยาบาลประจำห้องฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า เมื่อวานเกิดอุบัติเหตุรายใหญ่ รถไฟชนกับรถยนต์บริเวณจุดตัดผ่านถนนในตำบล หมู่บ้าน จึงขอกำชับให้จังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่ขับผ่านจุดตัดทางรถไฟ ให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยหยุดชะลอรถก่อนถึงทางรถไฟ เพื่อตรวจสอบก่อนว่าไม่มีขบวนรถไฟวิ่งมาจึงขับผ่านได้ นอกจากนี้ จากการติดตามรายงานสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกจะมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง จึงขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวังในการขับผ่านเส้นทางที่สภาพอากาศแปรปรวน กรณีทัศวิสัยไม่ดี ให้นำรถจอดริมข้างทางในบริเวณที่ปลอดภัยและรอจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น จึงค่อยเดินทางต่อ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ