เอแบคโพลล์ ชี้วาระเลือกตั้งปชช.อยากให้แก้ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาหลัก

ข่าวทั่วไป Thursday April 21, 2011 11:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง สำรวจวิกฤตการณ์ทางสังคมของชาติในช่วงเข้าสู่วาระการเลือกตั้ง: กรณีศึกษาปัญหาคอรัปชั่น ท้องในวัยเรียน และยาเสพติด ใน 17 จังหวัดของประเทศ พบว่า ครึ่งหนึ่งหรือร้อยละ 50.3 ระบุปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสังคมไทยและควรได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด และอยากมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหามากที่สุด รองลงมาคือ ร้อยละ 41.5 ระบุ ปัญหาคอรัปชั่น และร้อยละ 8.2 ระบุปัญหาท้องในวัยเรียน

เมื่อถามว่า ปัญหาใดที่ไม่อยากเจอกับตนเองและคนใกล้ตัวมากที่สุด ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 73.4 ระบุปัญหายาเสพติด รองลงมาคือร้อยละ 16.1 ระบุเป็นปัญหาท้องในวัยเรียน และร้อยละ 10.5 ระบุเป็นปัญหาคอรัปชั่น

ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.7 เห็นด้วยที่จะให้เยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาวิกฤตทางสังคมของชาติทั้งสามปัญหาคือ ปัญหายาเสพติด คอรัปชั่น และท้องในวัยเรียน เพราะ ต้องเสริมสร้างจิตสำนึกของเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้รู้จักแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และอยากให้เยาวชนตระหนักถึงบทบาทเพื่อเป็นตัวอย่างแห่งความดีในอนาคต เป็นต้น ในขณะที่เพียงร้อยละ 4.3 เท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย

นอกจากนี้ เมื่อถามว่า ใครควรเป็นผู้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาระดับชาติมากที่สุด พบว่า อันดับแรกหรือร้อยละ 29.9 ระบุเป็น รัฐบาล อันดับสองหรือ ร้อยละ 19.2 ระบุเป็นตัวผู้ตอบแบบสอบถามเอง อันดับสามหรือร้อยละ 17.7 ระบุเป็น พ่อ-แม่ ผู้ปกครอง อันดับสี่หรือร้อยละ 14.2 ระบุเป็นนักการเมือง อันดับห้าหรือร้อยละ 8.3 ระบุเป็นเยาวชน และรองๆ ลงไป ได้แก่ ข้าราชการ ครูอาจารย์ องค์กรพัฒนาเอกชน สื่อมวลชน และนักธุรกิจ ตามลำดับ

แต่ที่น่าเป็นห่วงเหมือนเดิม คือ เมื่อถามถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาระดับชาติ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.4 ระบุนักการเมืองข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐไม่จริงจัง ไม่ต่อเนื่อง มีคอรัปชั่นและแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว รองลงมาคือ ร้อยละ 68.9 ระบุชาวบ้านทั่วไป เห็นแก่ตัว สนใจแต่เรื่องตนเอง ร้อยละ 67.7 ระบุสถาบันครอบครัวอ่อนแอ ร้อยละ 65.7 ระบุขาดการบังคับใช้กฎหมาย ร้อยละ 64.7 ระบุความไม่เท่าเทียมในสังคม และร้อยละ 62.4 ระบุเด็กไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนที่ดี จนเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ดี

อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง อะไรบ้างจะดีขึ้น พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 72.4 ระบุ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจะดีขึ้น รองลงมาคือ ร้อยละ 71.6 ระบุนักการเมือง ร้อยละ 71.5 ระบุระบบการศึกษาจะดีขึ้น ร้อยละ 57.5 ระบุระบบราชการ รองๆ ลงไปคือ นิสัยคนไทย สิ่งแวดล้อม สื่อมวลชน และองค์กรภาคธุรกิจจะดีขึ้น ถ้ามีการแก้ไขอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

"เมื่อปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ ฝ่ายการเมืองที่เป็นความหวังของประชาชนต้องเร่งทำให้เกิดผลที่เห็นและจับต้องได้ว่า สามารถลดความรุนแรงของปัญหาลงได้อย่างแท้จริง กองกำลังพิเศษในการปราบปรามยาเสพติดอาจยังไม่เพียงพอและต้องระวังปรากฏการณ์ “ผึ้งแตกรัง” ได้ จึงจำเป็นต้องทำกิจกรรมเชิงบวก เช่น การเสริมสร้างอาชีพยอดนิยมของท้องถิ่น เพิ่มรายได้ครัวเรือนในระดับชุมชนควบคู่ไปด้วย ทำให้ชาวบ้านเห็นว่า ทำมาหากินสุจริตแล้วมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในชีวิตมากมาย นอกจากนี้ รัฐบาลต้องลงทุนด้านเทคโนโลยีฐานข้อมูลติดตามผู้ค้า ผู้เสพที่มีประสิทธิภาพสามารถติดตามเส้นทางชีวิตของพวกเขาได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่า ผู้ค้า ผู้เสพสามารถดำรงชีวิตตามกรอบของกฎหมายบ้านเมืองและไม่เป็นอันตรายต่อสังคม" นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความสุขชุมชน กล่าว

ด้านนายวรภัทธ ปราณีประชาชน คณะทำงานโครงการฑูตความดีแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากผลสำรวจทำให้เห็นว่าประชาชนให้ความสำคัญกับปัญหาที่ใกล้ตัวมากกว่าปัญหาที่ไกลตัว โดยมีประชาชนมองปัญหายาเสพติดสำคัญมากกว่าปัญหาคอรัปชั่น ทางออกคือ ในช่วงที่กำลังเข้าสู่วาระการเลือกตั้งของประชาชนจึงเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนต้องใช้วิจารณญาณตัดสินใจเลือกผู้ที่จะเข้ามาแก้ปัญหาสำคัญของชาติได้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง มีผลงานชัดเจนว่าสามารถแก้ไขปัญหาใกล้ตัวของประชาชนได้ และถึงแม้ดูเหมือนว่าประชาชนจะเมินปัญหาคอรัปชั่นแต่ก็ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนต่อไปว่า ปัญหาคอรัปชั่นเป็นส่วนหนึ่งของต้นตอปัญหาสังคมอื่นๆ ในชาติเช่นกันและจะทำให้ประชาชนอยู่กันอย่างไม่ปกติสุข

ทั้งนี้ การสำรวจดังกล่าว ดำเนินการใน 17 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เพชรบุรี ระยอง กาญจนบุรี ปทุมธานี ชลบุรี น่าน พิษณุโลก เชียงใหม่ นครพนม ชัยภูมิ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี นครราชสีมา ปัตตานี และสงขลา จำนวนทั้งสิ้น 1,494 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่าง 10 — 20 เมษายน 2554 ที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ