นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบ พ.ร.บ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เมื่อวันที่ 20 เม.ย.โดยเนื้อหาประกอบด้วยหลักใหญ่ 4 หมวด ได้แก่ 1.หมวดคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ 2.หมวดคณะกรรมการบริหารวัคซีนแห่งชาติ 3.หมวดสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และ 4.หมวดการจัดตั้งกองทุนวัคซีนแห่งชาติ นอกจากนี้จะได้ดำเนินการยกระดับสถาบันวัคซีนแห่งชาติขึ้น เป็นสถาบันวัคซีนแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 นายจุรินทร์ กล่าว
วาระแห่งชาติด้านวัคซีนเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2554 โดยระบุให้มีการออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีและประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2554 โดยเนื้อหาของระเบียบสำนักนายกได้ระบุให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติขึ้นเป็นกลไกขับเคลื่อนหลักพร้อมทั้งให้จัดตั้งสถาบันวัคซีนแห่งชาติขึ้น
ในวันนี้ได้มีการพร้อมลงนามข้อตกลงความร่วมมือในการดำเนินโครงการตามวาระแห่งชาติด้านวัคซีนร่วมกับ 8 หน่วยงาน ได้แก่ กรมควบคุมโรค กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ องค์การเภสัชกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล สถานเสาวภา สภากาชาดไทย ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ของประเทศไทย สำนักพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และบริษัทไบโอเนท-เอเชีย จำกัด เพื่อผลัดดันให้วาระแห่งชาติด้านวัคซีนเกิดเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ วาระแห่งชาติด้านวัคซีนประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์หลัก 10 โครงการใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณจากรัฐบาล 4,000 ล้านบาท และภาคเอกชนร่วมสมทบ 1,000 ล้านบาท ระยะเวลาในการดำเนินการ 10 ปีเพื่อผลิตวัคซีนให้ได้ 9 ชนิด ได้แก่วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน และตับอักเสบบี วัคซีนบีซีจี วัคซีนป้องกันไอกรนชนิดไร้เซลล์ วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอีจากเซลล์เพาะเลี้ยง วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชื้อเป็น วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก สามารถป้องกันโรคได้ 7 โรค ได้แก่ คอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ตับอักเสบบี วัณโรค ไข้สมองอักเสบ และไข้เลือดออก และจะสามารถทดแทนการนำเข้าวัคซีนได้ปีละประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งหากวัคซีนที่ผลิตได้นั้นมีจำนวนเพียงพอที่ใช้ในประเทศแล้วหากเหลือจะทำการส่งออกด้วย