นายกรัฐมนตรี เผยเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดสุรินทร์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่าย แต่ปฏิเสธที่จะยืนยันรายงานข่าวทหารฝ่ายไทยเสียชีวิตจากเหตุดังกล่าวจำนวน 4 นาย โดยจะขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบรายงานข้อมูลที่ชัดเจนอีกครั้ง
"คงยังไม่ใช่ ตอนที่สรุปมาไม่ได้บอกว่าอย่างนั้น กำลังให้หน่วยงานสรุปรายละเอียดที่ชัดเจน แต่ที่รับทราบเข้าใจว่ามีการเสียชีวิตทั้งสองฝ่าย" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พ.อ.ประวิตร หูแก้ว รองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุดังกล่าวมีทหารพรานเสียชีวิต 3 นาย และบาดเจ็บอีก 12 นาย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวในขณะนี้ได้ประสานไปทางกัมพูชาให้เร่งจัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค(อาร์บีซี) และคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(จีบีซี) ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่มีอยู่โดยเร็ว ไม่ว่าไทยหรือกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพก็ได้เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการบริหารจัดการในการจัดวางกำลัง และการกำชับไม่ให้กองกำลังของแต่ละฝ่ายเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่รอยต่อระหว่างสองประเทศ
ส่วนการช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่สู้รบนั้นนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางลงพื้นที่ไปดูแลการให้ความช่วยเหลือแล้ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางกัมพูชาไม่ควรนำเรื่องดังกล่าวไปร้องเรียนต่อประธานอาเซียน เพราะไม่ใช่เรื่องที่มีความจำเป็นอะไร ควรจะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่แก้ปัญหา
"ควรให้กลไกภายในพื้นที่ดูแลจะดีที่สุด เพราะหากไปไกลกว่านั้นคงจะแก้ปัญหาได้ยากขึ้น" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกัมพูชาได้ส่งจดหมายถึงประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(UNSC) เพื่อเรียกร้องให้เข้ามาแทรกแซงเหตุปะทะที่เกิดขึ้นดังกล่าวแล้ว
ขณะที่นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุปะทะกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม หมู่ที่ 8 ตำบลตาเมียง และปราสาทตาควาย หมู่ที่ 17 ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ว่า ส่งผลให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 2 ตำบล 36 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลตาเมียง และตำบลบักได
ทั้งนี้ได้อพยพราษฎรประมาณ 9,000 คน ไปยังจุดรองรับการอพยพ 4 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนโคกกลางวิทยา จำนวน 3,000 คน โรงเรียนบ้านโคกโบสถ์ 2,000 คน วัดบ้านขอทอง 2,000 คน และนิคมสร้างตนเอง อำเภอปราสาท 2,000 คน ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการสำรวจความเสียหายด้านทรัพย์สิน