พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยกับสำนักข่าวอินโฟเควสท์ว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.45 น. ได้เกิดเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชาขึ้นอีกเป็นครั้งที่สาม ที่ชายแดนบริเวณปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยกัมพูชาได้พยายามเคลื่อนกำลังเข้ามายึดพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือน และเริ่มเปิดฉากตอบโต้ไทยก่อน อย่างไรก็ดี ยังไม่มีรายงานทหารไทยได้รับบาดเจ็บ
"กัมพูชาได้โยกกำลังจากพื้นที่พระวิหาร และนำกำลังรถถังพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือน แต่เราควบคุมสถานการณ์ไว้ได้...กัมพูชาเปิดฉากยิงปืนเล็กเข้ามา และพัฒนาไปจนถึงขั้นปืนใหญ่" พ.อ.สรรเสริญ กล่าว
โฆษกกองทัพบก ยังกล่าวด้วยว่า การที่ทหารกัมพูชาได้เคลื่อนกำลังเข้ามาในเขต No mans land ซึ่งต่างมีข้อตกลงกันไว้อยู่ก่อนแล้วนั้น ถือว่าเป็นการแสดงเจตนารมย์ชัดเจนว่าต้องการจะยั่วยุและสร้างสถานการณ์ให้เกิดการปะทะกันขึ้น ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ทางกองทัพไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ และจำเป็นที่จะต้องตอบโต้ไปตามหลักปฏิบัติสากล
"เขา(กัมพูชา) ยังไม่ถอนกำลังทหารจากพื้นที่ no mans land ซึ่งถ้าเขายังอยู่ ก็ถือว่าเป็นการแสดงเจตนารมย์ชัดเจนว่าต้องการจะสร้างสถานการณ์ต่อไป เราคงปล่อยไม่ได้" พ.อ.สรรเสริญ กล่าว
พร้อมกันนี้ มีรายงานว่ากัมพูชาได้นำเด็กและสตรีเข้ามาอยู่ในบริเวณแนวที่วางกำลังของทหารกัมพูชาด้านเขาพระวิหาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารของไทยได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน และนำรายงานให้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ได้รับทราบแล้ว ซึ่ง ผบ.ทบ.กำชับว่าให้เก็บภาพดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้สามารถชี้แจงกับประชาคมโลกได้
"เขาเอาเด็กกับผู้หญิงที่เป็นชาวบ้านเข้ามาอยู่ในแนวที่วางกำลังด้านพระวิหาร เราได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานแล้วเพื่อจะชี้แจงให้สังคมได้รับทราบ" พ.อ.สรรเสริญ ระบุ