กรมชลฯ เผยพายุฤดูร้อนช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้ง-ลดการใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำ

ข่าวทั่วไป Tuesday April 26, 2011 12:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่ ส่งผลให้มีฝนตกกระจายทั่วไป ช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้ง รวมทั้ง ทำให้การใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำต่างๆลดลงตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำหลายแห่งยังคงมีน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย จึงขอความร่วมมือให้ช่วยกันประหยัด เพื่อสร้างเสถียรภาพในการใช้น้ำอย่างเพียงพอและยั่งยืนต่อไปในวันข้างหน้าด้วย

สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ ล่าสุด(26 เม.ย. 54) มีปริมาณน้ำรวมกัน จำนวน 37,377 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 54 ของความจุอ่างฯขนาดใหญ่รวมกันทั้งหมด ปริมาณน้ำมากกว่าปี 2553 จำนวน 618 ล้านลูกบาศก์เมตร และเป็นปริมาณน้ำที่สามารถนำมาใช้การได้จำนวนทั้งสิ้น 13,896 ล้านลูกบาศก์เมตร

ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนหลักๆ ทั่วประเทศ มีดังนี้ ในเขตภาคเหนือ ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่หลายแห่งยังคงมีปริมาณน้ำลดลง เนื่องจากต้องส่งน้ำไปสนับสนุนการใช้น้ำในพื้นที่ด้านท้ายอ่างฯ ตลอดในช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมา อาทิ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 6,038 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 45 ของความจุอ่างฯ เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 4,779 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 50 ของความจุอ่างฯ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา จ.เชียงใหม่ มีปริมาณน้ำ 104 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของความจุอ่างฯ เขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง มีปริมาณน้ำ 67 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 60 ของความจุอ่างฯ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 253 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 33 ของความจุอ่างฯ

ในพื้นที่ภาคอีสาน เขื่อนหลายแห่งมีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย อาทิ เขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี มีปริมาณน้ำ 31 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 26 ของความจุอ่างฯ เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร มีปริมาณน้ำ 158 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ มีปริมาณน้ำ 495 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 35 ของความจุอ่างฯ และเขื่อนลำพระเพลิง จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำ 62 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 56 ของความจุอ่างฯ

ส่วนในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก ปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆ ลดลง อาทิ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 304 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 32 ของความจุอ่างฯ เขื่อนทับเสลา จ.อุทัยธานี มีปริมาณน้ำ 46 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 29 ของความจุอ่างฯ เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก มีปริมาณน้ำ 51 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 23 ของความจุอ่างฯ และเขื่อนบางพระ จ.ชลบุรี มีปริมาณน้ำ 77 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 66 ของความจุอ่างฯ และเขื่อนประแสร์ จ.ระยอง มีปริมาณน้ำ 203 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 82 ของความจุอ่างฯ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ