ศาลอาญาสั่งยกคำร้องอดีตผู้บริหาร บมจ.ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น(PICNI) ที่ขอให้ศาลสั่งให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) มีหนังสือแจ้งสถาบันการเงิน และหน่วยงานราชการอื่นๆ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกรรมได้ โดยระบุไม่ใช่หน้าที่ของศาลที่จะดำเนินการหรือออกคำสั่งตามที่ผู้ร้องขอ แต่เป็นเรื่องที่ผู้ร้องต้องไปดำเนินการต่อ ก.ล.ต.ซึ่งเป็นผู้ออกคำสั่งอายัดทรัพย์สินเอง
โดยนายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน อดีต รมช.พาณิชย์ กับพวกรวม 12 คน ซึ่งเป็นอดีตผู้บริหาร PICNI ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเยียวยาความเสียหายระหว่างการถูกอายัดทรัพย์สินในคดีที่ ก.ล.ต. และอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของนายสุริยากับพวกทั้งหมดจำนวน 310 ล้านบาท เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์ของบริษัท เวิลด์แก๊ส จำกัด (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นทรัพย์สินของ PICNI และได้อายัดทรัพย์สินมาครบกำหนดเวลาแล้ว
หลังศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า ตามคำร้องที่ขอให้ศาลมีคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไปนี้ คือ 1.ขอให้ศาลมีหนังสือรับรองคำสั่งถึงที่สุด เพื่อแสดงต่อสถาบันการเงินเพื่อให้สามารถเบิกถอนเงินได้ตามปกติ หรือ 2.ขอให้ศาลมีคำสั่งแจ้งให้ ก.ล.ต.มีหนังสือแจ้งสถาบันการเงิน กรมที่ดิน กรมการขนส่งทางบก และหน่วยงานราชการอื่นๆ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกรรมได้ หรือ 3.ขอให้ศาลมีคำสั่งเพื่อแสดงว่าคำสั่งของศาลชั้นต้นเป็นที่สุดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 นั้น
แต่กรณีดังกล่าวไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลดำเนินการหรือออกคำสั่งในกรณีเช่นนี้ได้ และไม่ใช่หน้าที่ของศาลที่จะดำเนินการหรือออกคำสั่งตามที่ผู้ร้องร้องขอได้ แต่เป็นกรณีที่ผู้ร้องต้องไปดำเนินการต่อ ก.ล.ต.ผู้ออกคำสั่งอายัดทรัพย์สินของผู้ร้องทั้งสาม ศาลจึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 12 คน ประกอบด้วย นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน, นายสุเทพ อัคควุฒิไกร, นายภานุวรรษ เลิศวิเศษ, น.ส.ศศิธร วุฒิรุ่งเรืองสกุล, นางวันดี โตเจริญ, น.ส.ลักขณา แสวงหา, นายสนทยา น้อยเจริญ, นายธรรมนูญ ทองลือ, ม.ล.ชัยภัทร ชยางกูร, นายทะนงศักดิ์ ศรีทองคำ, บริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด (AMC) และบริษัท สีลมแพลนเนอร์ จำกัด
ทั้งนี้ ก.ล.ต.พบพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่าบุคคลดังกล่าวทุจริต ยักยอกเงิน และหุ้นบริษัท เวิลด์แก๊ส(ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นทรัพย์สินของ PICNI ทำให้บริษัทฯ เสียหาย ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีลักษณะอันอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ของประชาชน และคดีมีอัตราโทษสูง มีเหตุอันควรเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวจะยักย้ายหรือจำหน่ายทรัพย์สิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 267 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ก.ล.ต.ด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ก.ล.ต.จึงมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของบุคคลที่ถูกกล่าวโทษดังกล่าวทุกราย ซึ่งรวมถึงหุ้นของบริษัท เวิลด์แก๊ส(ประเทศไทย) จำกัด ที่ถืออยู่ในนามบุคคลดังกล่าว