รายงานสภาพอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ มีกำลังอ่อน และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคกลางและภาคตะวันออก ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนยังมีฝนฟ้าคะนองกระจายในระยะนี้
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.
ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่กับมีฝนตกหนักโดยมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ และนครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี และกาญจนบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ออกประกาศระบุว่า ฤดูฝนในภาคเหนือปีนี้จะเริ่มต้นตั้งแต่ ต้นเดือน พ.ค. 54 เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลอันดามัน ทวีกำลังแรงขึ้น เคลื่อนที่เข้าใกล้ประเทศไทย ซึ่งเป็นตัวชักนำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่เป็นลมชื้นพาเมฆและฝนพัดปกคลุมภาคเหนือ
นอกจากนี้ร่องมรสุมซึ่งพาเมฆและฝนจำนวนมาก จะเลื่อนขึ้นมาพาดผ่านภาคเหนือในเดือนมิ.ย. และช่วงปลายเดือนมิ.ย.ถึงต้นเดือนก.ค.ร่องมรสุมนี้จะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศจีนตอนใต้ ทำให้ปริมาณและการกระจายของฝนลดน้อยลงระยะ 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามในเดือนสิงหาคมถึงกันยายนร่องมรสุมนี้จะเลื่อนกลับลงมาพาดผ่านภาคเหนืออีกครั้งหนึ่ง ทำให้มีฝนตกชุกทั่วไป
ส่วนในเดือนต.ค. ร่องมรสุมจะเลื่อนลงไปภาคกลาง และทำให้ฤดูฝนของภาคเหนือปีนี้สิ้นสุดประมาณกลางเดือนต.ค.54 ปริมาณและการกระจายของฝนในภาคเหนือปีนี้ ประมาณ 1000-1600 มิลลิเมตร จำนวน 100-160 วัน โดยในช่วงเดือนพ.ค.-ต.ค.มีค่าใกล้เคียงค่าเฉลี่ย
สำหรับเดือนส.ค.และก.ย. คาดว่า จะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยตอนบน 1 ลูก ซึ่งทำให้ฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ก่อให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม อุทกภัย น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขังได้