นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วานนี้มีมติอนุมัติงบกลางเพื่อเหตถฉุกเฉินจำเป็นเพิ่มเติมเพียง 13,745 ล้านบาท ไม่ใช่หลักหลายแสนล้านบาทอย่างที่มีกระแสข่าว เนื่องจากงบประมาณส่วนใหญ่ที่มีการกล่าวถึงเป็นโครงการที่ได้รับการอนุมัติหลักการไปแล้ว แต่มีการนำเสนอเพื่อยืนยันโครงการอีกครั้ง
การประชุม ครม.วานนี้มีวาระการพิจารณาทั้งสิ้น 155 เรื่อง โดยในส่วนดังกล่าวเป็นวาระปกติ 102 เรื่อง และวาระจร 53 เรื่อง ซึ่งมีจำนวนวาระค่อนข้างมาก เนื่องจากรัฐบาลตั้งใจให้เกิดความต่อเนื่องในการดำเนินงานตามที่ได้แถลงไปแล้วและมีนโยบายชัดเจน ไม่อยากให้โครงการเร่งด่วน โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัย การแก้ไขปัญหาแนวชายแดน และค่าใช้จ่ายจัดการเลือกตั้งที่เป็นค่าใช้จ่ยสูงสุดในงบกลางกว่า 3 พันล้านบาท จำเป็นต้องอนุมัติเมื่อวานนี้
"แม้ว่าจะยุบสภาแต่ถ้าจำเป็นจริง ๆ รัฐบาลก็อาจจะขออนุมัติใช้งบประมาณจากคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ถ้าเป็นเรื่องฉุกเฉินเร่งด่วน เพราะกฎหมายให้รัฐบาลไปขอกกต.อนุมัติงบเพิ่มเติมได้ ทางกฎหทมายถือยังเป็นรัฐบาล ภาษากฎหมายแจ้งว่าเป็นรัฐบาล ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ มีอำนาจเต็ม แต่อำนาจบางอย่างทำไม่ได้ตามกฎหมายเลือกตั้ง และประเพณีปฏิบัติ รัฐบาลต้องการเห็นความต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน"นายปณิธาน กล่าว
สำหรับเรื่องสำคัญที่มีการพิจารณาอนุมัติในที่ประชุม ครม.วานนี้ ได้แก่ กลุ่มแรกคือการแก้ไขปัญหาความเดือดร้องทางการเกษตร การแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร ปุ๋ย ที่ดินทำกิน แมลงศัตรูพืช หลายโครงการเป็นงานที่ทำต่อเนื่องทุกปี รวมทั้งแก้ปัญหาอุทกภัย และมีเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะแรงงานของเกษตรกรเป็นเงินสำรองจ่ายฉุกเฉิน การจัดมหกรรมธงฟ้า
กลุ่มที่ 2 ที่สำคัญมาก รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นพิเศษคืองานด้านสาธารณสถุข สังคม การศึกษา มีการอนุมัติแผนพัฒนาเด็กและเยาวชน คุ้มครองประกันสังคม มาตรฐานศูนย์เด็กเล็ก โครงการปล่อยกู้บ้านแห่งแรกดอกเบี้ย 0% 2 ปีแรก การแก้ไขปัญหาที่ดินหลายรูปแบบที่เป็นเครือข่ายทางสังคมทีเกี่ยวกับการร้องเรียนของประชาชน การอนุรักษ์เมือง เช่น เชียงใหม่ การก่อสร้างสนามกีฬาทุกตำบล
และ ค่าใช้จ่ายผลตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุข ในโครงการพัฒนาโรงพยาบาลสุขภาพตำบลที่ต้องใช้งบกลางเพื่อเริ่มต้นปีนี้ และในปีหน้าเข้าสู่ระบบงบประมาณปกติ การปรับค่าจ้างพนักงานมหาวิทยาลัยเพื่อให้สอดคล้องกับท้องถิ่น กทม.ซึ่ง ครม.ให้ดูเรื่องความเหลื่อมล้ำเพื่อจัดสัดส่วนให้ได้มาตรฐานเดียวกันกับค่าครองชีพให้ทันกับข้าราชการที่ปรับไปล่วงหน้า รวมถึงการวางยุทธศาสตร์การเรียนรู้คูณภาพเยาวชน ส่วนใหญ่อนมัติงบประมาณไปล่วงหน้าแล้ว
กลุ่มที่ 3 โครงสร้างพื้นฐานหลายโครงการ ขนส่งมชวลชน ระบบราง ระบบด้านรถจักร บรอดแบนด์ การจัดการขนส่งและบริการ การจัดระบบตั๋วร่วม และการปรับเงื่อนไขจัดซื้อเครื่องบินของการบินไทย กลุ่ม 4 เป็นเรื่องแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งตอบสนองให้ประชาชนที่ให้ดำเนินการการศึกษาท้องถิ่น ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก การติดตามประเมินผล การก่อหนี้ผูกพันโครงการต่าง ๆ
กลุ่มการดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศไทย คณะกรรมการปฏิรูปประเทศมีข้อเสนอเข้ามาพร้อมกัน 3 ชุด มีรายละเอีอยดค่อนข้างมาก และมีข้อเสนอเปลียนแปลงโครงสร้างประเทศ ระบบเลือกตั้ง ระบบการได้มาซึ่งผู้นำ และระบบการบริหารท้องถิ่น ซึ่งเป็นข้อเสนอที่สำคัญ เช่น ให้นายกรัฐมนตรีมาจากปาร์ตี้ลิสต์ นายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจยุบสภา และเรื่องการกระจายอำนาจที่เปลี่ยนปลงการเมืองการปกครองท้องถื่นค่อนข้างมาก
"ครม.ยืนยันว่าการปฏิรูปประเทศต้องเดินหน้า แต่ต้องศึกษาประเมินข้อเท็จจริง มีกรอบเวลา 1 เดือน หรือ 5 อาทิตย์ให้หน่วยงานรวบรวมความคืบหน้า เพราะบางเรื่องต้องเสนอแก้ไขกฎหมายหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญ"นายปณิธาน กล่าว
กลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ โครงการประชาภิวัฒน์ในส่วนต่าง ๆ เช่น การจัดระบบจักรยานยนต์รับจ้าง ผู้ค้าหาบเร่ ปลอดอาชญากรรม ของบกลางเป็นโคงการนำร่อง มีผลต่อประชาชนที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิต
นอกจากนั้น อีกส่วนที่สำคัญคือ เรื่องของการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน ส่วนนี้มีองค์ประกอบสำคัญ การปรับโครงสร้างขีดความสามารถกองทัพ ส่วนมากเป็นโครงการต่อเนื่องใช้งบผูกพันอยู่ในกรอบปีงบ 54 อยู่แล้ว มีส่วนที่อนุมัติแก้ไขปัญหาแนวชายแดน กระทรวงกลาโหมได้รับงบ 1 พันล้านบาทเพื่อใช้ในการป้องกันแนวชายแดนไทย-กัมพูชา การจัดหมู่เรือปราบโจรสลัดโซมาเลีย 400 ล้านบาท เพิ่มเบี้ยเลี้ยงทหารพรานจากวันละ 55 บาท เป็น 120 บาทเท่ากับทหารเกณฑ์ วงเงินรวม 172 ลบ
เรื่องการแก้ไขปัญหาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้การยกระดับคุณภาพชีวิต ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญหลายโครงการที่ทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ดีขึ้นมีผลตอ่เนื่องต่อความไว้วางใจต่อรัฐ ซึ่งขณะนี้อัตราการเสียชีวิตลดลงจาก 3 ราย/วัน เหลือ 1 รายเศษ/วัน แต่ยังมีเหตุการณ์ และประชาชนต้องการให้หตุการณ์คลี่คลาย โครงสร้างศอ.บต.ต้องมี และยังมีโครงการบรรจุพยาบาลวิชาชีพเพิ่มเติมในพื้นที่และให้แก้ไขปัญหาความขาดแคลนบุคลากรด้านสธารณสุขในพื้นที่
กลุ่มเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ การบรรเทาภัยบัติ อนุมัติใช้งบกลาง 1,385 ล้านบาทแก่การท่องเที่ยวแห่งปรเทศไทย(ททท.)เพื่อเยียวยาแหล่งท่องเที่ยว
สุดท้ายเป็นเรื่องการเลือกตั้ง ซึ่ง ครม.อนุมัติงบกลางเป็นค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งให้กับกกต. 3,164 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายจำเป็นที่ต้องได้รับการสนับสนุน