พนักงานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ไดอิจิ ทำการวัดระดับสารกัมมันตรังสีภายในอาคารเตาปฏิกรณ์หมายเลข 1 ในช่วงเช้าวันนี้ เพื่อเตรียมเข้าไปทำงานอย่างเต็มรูปแบบ หลังจากที่การซ่อมแซมต้องล่าช้าออกไปเป็นเวลาเกือบ 2 เดือน
ปฏิบัติการล่าสุดนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อเย็นวานนี้ที่บริษัท โตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ (เทปโก) ได้เปิดประตูหลายบานที่เชื่อมต่อไปยังอาคารเตาปฏิกรณ์กับอาคารกังหันน้ำที่อยู่ติดกันอีกครั้ง พร้อมกับยืนยันว่าการปล่อยสารกัมมันตรังสีสู่อากาศไม่ทำให้ระดับสารกัมมันตรังสีในบริเวณนั้นเพิ่มสูงขึ้น
เทปโกเปิดเผยว่า คนงาน 9 คนได้เข้าไปในอาคารเตาปฏิกรณ์เมื่อเวลา 4.20 น.ตามเวลาท้องถิ่น และทำการวัดระดับสารกัมมันตรังสีรวมถึงสถานะอื่นๆภายในอาคารเป็นเวลาราว 30 นาที แต่ยังไม่มีการเปิดเผยระดับสารกัมมันตรังสีที่ตรวจพบ
หากระดับสารกัมมันตรังสีอยู่ในระดับที่ปลอดภัยสำหรับคนงาน พวกเขาจะเริ่มสร้างระบบหล่อเย็นใหม่ให้กับเตาปฏิกรณ์หมายเลข 1 ซึ่งได้รับความเสียหายหนักสุดในบรรดาเตาปฏิกรณ์ทั้งหมด 6 ตัว
ทั้งนี้ ปฏิบัติการซ่อมแซมเตาปฏิกรณ์ต้องหยุดชะงักหลังเกิดการระเบิดของไฮโดรเจนเมื่อวันที่ 12 มีนาคม และสารกัมมันตรังสีก็อยู่ในระดับสูงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สำนักข่าวเกียวโดรายงาน