ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เผยขอความร่วมมือผู้ปกครองและครูเฝ้าระวังป้องกันโรคติดต่อที่แพร่ระบาดมากในฤดูฝน 2โรคสำคัญคือไข้หวัดใหญ่และโรคมือเท้าปาก หากพบเด็กป่วยต้องรีบแยกเด็กป่วยออกจากเด็กปกติแล้วส่งพบแพทย์ และหยุดเรียนอย่างน้อย 5 วันจนกว่าจะหายสนิท
"สถานที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ ศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาล เนื่องจากมีเด็กอยู่รวมเป็นกลุ่มใหญ่หากมีเด็กป่วย เชื้อจะสามารถแพระบาดได้อย่างรวดเร็ว โดยเชื้อโรคทั้ง 2 ชนิดนี้ติดต่อกันง่าย เชื้อจะอยู่ในเสมหะละอองน้ำมูกน้ำลายที่ไอจามออกมารวมทั้งติดต่อจากการสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อติดอยู่" นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.กล่าว
เนื่องจากขณะนี้เป็นฤดูฝนสภาพอากาศชื้นเย็นเป็นฤดูกาลที่มีการแพร่ระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส ที่พบได้บ่อยในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี คือ โรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล(Influenza) และโรคมือเท้าปาก(Hand Foot Mouth Disease) สำหรับโรคไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-8 พ.ค.54 พบผู้ป่วยแล้ว 10,654 คน ลดลงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 53 เกือบ 3 เท่าตัว โดยร้อยละ 29 เป็นกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ส่วนโรคมือเท้าปากพบผู้ป่วย 949 คน ลดลงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 53 เกือบ 7 เท่าตัว โดยร้อยละ 92 เป็นกลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
"แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยทั้ง 2 โรคในปีนี้จะน้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่เพื่อไม่เป็นการประมาทได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด เฝ้าระวังโรคอย่างใกล้ชิด" นพ.ไพจิตร์ กล่าว
ปลัด สธ. กล่าวว่า โรคไข้หวัดใหญ่และโรคมือเท้าปากจะมีอาการคล้ายๆ กัน คือ จะมีไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว แต่โรคมือเท้าปากจะพบมีตุ่มใสๆขึ้นในปาก ที่ลิ้น กระพุ้งแก้ม หรือตามง่ามนิ้วมือโดยโรคมือ เท้า และปาก เกิดจากเชื้อเอนเทอโรไวรัส(enterovirus) พบบ่อยในเด็กทารกและเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5ปี ส่วนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล เป็นการติดเชื้ออินฟูเอนซาไวรัส(Influenza virus)ซึ่งสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ในคนมีหลายสายพันธุ์ แต่ที่บ่อยๆคือ สายพันธุ์ H1N1 และ H3N2 พบได้ทุกอายุโดยเฉพาะในเด็กจะพบมากเป็นพิเศษ