สธ.ขอให้ผู้ปกครอง-ครูเฝ้าระวังเด็กป่วยไข้หวัดใหญ่/มือเท้าปากช่วงปิดเทอม

ข่าวทั่วไป Sunday May 22, 2011 11:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เผยขอความร่วมมือผู้ปกครองและครูเฝ้าระวังป้องกันโรคติดต่อที่แพร่ระบาดมากในฤดูฝน 2โรคสำคัญคือไข้หวัดใหญ่และโรคมือเท้าปาก หากพบเด็กป่วยต้องรีบแยกเด็กป่วยออกจากเด็กปกติแล้วส่งพบแพทย์ และหยุดเรียนอย่างน้อย 5 วันจนกว่าจะหายสนิท

"สถานที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ ศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาล เนื่องจากมีเด็กอยู่รวมเป็นกลุ่มใหญ่หากมีเด็กป่วย เชื้อจะสามารถแพระบาดได้อย่างรวดเร็ว โดยเชื้อโรคทั้ง 2 ชนิดนี้ติดต่อกันง่าย เชื้อจะอยู่ในเสมหะละอองน้ำมูกน้ำลายที่ไอจามออกมารวมทั้งติดต่อจากการสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อติดอยู่" นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.กล่าว

เนื่องจากขณะนี้เป็นฤดูฝนสภาพอากาศชื้นเย็นเป็นฤดูกาลที่มีการแพร่ระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส ที่พบได้บ่อยในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี คือ โรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล(Influenza) และโรคมือเท้าปาก(Hand Foot Mouth Disease) สำหรับโรคไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-8 พ.ค.54 พบผู้ป่วยแล้ว 10,654 คน ลดลงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 53 เกือบ 3 เท่าตัว โดยร้อยละ 29 เป็นกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ส่วนโรคมือเท้าปากพบผู้ป่วย 949 คน ลดลงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 53 เกือบ 7 เท่าตัว โดยร้อยละ 92 เป็นกลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี

"แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยทั้ง 2 โรคในปีนี้จะน้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่เพื่อไม่เป็นการประมาทได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด เฝ้าระวังโรคอย่างใกล้ชิด" นพ.ไพจิตร์ กล่าว

ปลัด สธ. กล่าวว่า โรคไข้หวัดใหญ่และโรคมือเท้าปากจะมีอาการคล้ายๆ กัน คือ จะมีไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว แต่โรคมือเท้าปากจะพบมีตุ่มใสๆขึ้นในปาก ที่ลิ้น กระพุ้งแก้ม หรือตามง่ามนิ้วมือโดยโรคมือ เท้า และปาก เกิดจากเชื้อเอนเทอโรไวรัส(enterovirus) พบบ่อยในเด็กทารกและเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5ปี ส่วนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล เป็นการติดเชื้ออินฟูเอนซาไวรัส(Influenza virus)ซึ่งสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ในคนมีหลายสายพันธุ์ แต่ที่บ่อยๆคือ สายพันธุ์ H1N1 และ H3N2 พบได้ทุกอายุโดยเฉพาะในเด็กจะพบมากเป็นพิเศษ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ