ศาลปกครองกลาง นัดไต่สวนคดีกรณีการสรรหาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ในวันพรุ่งนี้(27 พ.ค.) เวลา 10.00 น.โดยเป็นคดีระหว่างนายสุรนันท์ วงษ์วิทยกำจร ผู้ฟ้องคดี กับประธานคณะกรรมการสรรหา กสทช.กับพวกรวม 15 คน เป็นผู้ถูกฟ้อง เรื่องคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นายสุรนันท์ ระบุในคำฟ้องว่า ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 15 คน ดำเนินการสรรหา กสทช.โดยไม่โปร่งใส กรณีไม่เสนอชื่อผู้ฟ้องคดี ซึ่งเป็นผู้ได้รับการพิจารณาคัดเลือกในวันที่ 25 เม.ย.54 ต่อประธานวุฒิสภา ซึ่งผู้ฟ้องคดีเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ขอให้เพิกถอนการกระทำดังกล่าว และให้ส่งรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกฯ ในวันที่ 25 เม.ย.54 ไปยังประธานวุฒิสภา
ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองกลางสั่งยกคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ฟ้องคดีเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวไว้ก่อนเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีคำพิพากษา
นอกจากนี้ ยังมีผู้สมัครเป็น กสทช.รายอื่นได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเช่นกัน ได้แก่ นายรัฐชทรัพย์ นิชิด้า, นายณัฐศิลป์ จงสงวน, นายสมยศ เลี้ยงบำรุง โดยต่างขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนมติของคณะกรรมการสรรหา กสทช.ที่มีนายจตุรงค์ ปัญญาดิลก ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน หลังตรวจสอบกระบวนการสรรหาการคัดเลือกผู้สมัครเป็นกรรมการ กสทช.แล้วพบว่า นางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 1 ใน 15 คน ของคณะกรรมการสรรหาฯ มีคุณสมบัติขัดกับรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 256 และมาตรา 207(2) ที่ระบุว่า ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่สามารถเป็นกรรมการสรรหา กสทช.ได้ อีกทั้ง พ.ร.บ.กรรมการสิทธิมนุษยชน พ.ศ.2542 มาตรา 7 กำหนดไว้ว่า กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะต้องไม่เป็นกรรมการหรือที่ปรึกษาของรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานรัฐ
ต่อมาสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ทำหนังสือแจ้งให้คณะกรรมการสรรหาฯ รับทราบแล้วส่งผลให้คณะกรรมการสรรหาฯ ไม่ครบองค์ประกอบ 15 คน ตามมาตรา 14 พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553