นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก กรณีไทยกัมพูชา ขอเลื่อนการพิจารณาการจัดการแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบปราสาทเขาพระวิหาร ว่า การพิจารณาเลื่อนเป็นอำนาจของคณะกรรมการมรดกโลก ที่จะประชุมกันในเดือนมิถุนายน แต่การประชุมที่ผ่านมา หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องเห็นพ้องกันกับไทย ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี ซึ่งในระหว่างนี้นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะนำร่างข้อมติ เสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในสัปดาห์นี้ แต่ถ้าไม่ทันก็พิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า
"การคัดค้านของฝ่ายกัมพูชา ถือเป็นเรื่องปกติ แต่เราก็ดำเนินการตามแนวทางของเราต่อ ในช่วงระหว่างรอการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ไม่ควรมีเหตุปะทะกัน ซึ่งไทยไม่ใช่ฝ่ายเริ่มต้นก่อนอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากมีสิ่งใด เราก็ต้องชี้ให้เห็นว่าทางกัมพูชาต้องการยกระดับปัญหาด้วยวิธีนี้"นายกรัฐมนตรีกล่าว
ส่วนกรณีที่มีข่าวระบุทางกัมพูชาได้ให้ทีมสำรวจที่จะให้มีผู้สังเกตการณ์ ลงพื้นที่แล้ว แต่ฝ่ายไทยยังไม่ได้ดำเนินการ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การสำรวจเกิดขึ้นก่อนได้ แต่ไม่ได้นำไปสู่เรื่องการให้ผู้สังเกตการณ์เข้าในพื้นที่ได้ จนกว่าจะมีการประชุมเพื่อตกลงกันหรือถอนทหารออกจากพื้นที่ก่อน
กรณีบอกให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยุติการชุมนุมก่อนได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะยุติการชุมนุมหรือไม่ ไม่สามารถบอกได้ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ หากหนีปัญหาโดยการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลก คงไม่ได้ เพราะคงมีแต่คนฟังกัมพูชาฝ่ายเดียว แต่ขอความกรุณาหากจะพูดอะไรกับประชาชน ขอให้อยู่บนข้อเท็จจริง ที่ผ่านมาก็ชัดเจนแล้วว่ารัฐบาลไม่ได้มีผลประโยชน์หรือทำให้ประเทศเสียหาย ไม่เช่นนั้น สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรี คงไม่ต่อว่าตน
ส่วนกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศนำคณะไปยังศาลโลก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไทยมีความพร้อมในการต่อสู้ทั้งเรื่องข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย แต่จุดสำคัญ เชื่อว่าศาลไม่มีเหตุผลออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ตามที่กัมพูชาร้องขอ เพราะคำพิพากษาศาลโลก เมื่อปี 2505 ไทยได้ปฏิบัติตาม ถือว่าจบแล้ว