ผลสำรวจล่าสุดเปิดเผยว่า คนญี่ปุ่น 6 ใน 10 คนเชื่อว่าประเทศจะแข็งแกร่งขึ้นหลังเกิดแผ่นดินไหว สึนามิ รวมถึงวิกฤตที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ไดอิจิ
โดยศูนย์วิจัย Pew ในสหรัฐ ได้ทำการสำรวจความเห็นของผู้ใหญ่ชาวญี่ปุ่น 700 คนในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ซึ่งผลปรากฏว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 58% เชื่อว่าญี่ปุ่นจะแข็งแกร่งขึ้น ขณะที่ 32% เชื่อว่าประเทศจะอ่อนแอลง หลังเกิดภัยพิบัติเมื่อวันที่ 11 มีนาคม และวิกฤตนิวเคลียร์หลังจากนั้น
"ชาวญี่ปุ่นทุกช่วงอายุ รายได้ และทุกกลุ่มประชากร ยังคงมีความหวัง" ผลสำรวจระบุ
นอกจากนั้นผลสำรวจยังเผยว่า 59% ของผู้ตอบแบบสอบถามวิตกว่าตนเองหรือคนในครอบครัวอาจสัมผัสสารกัมมันตรังสี และความวิตกดังกล่าวมีมากในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยชาวญี่ปุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไปมากถึง 72% ที่วิตกกังวลเรื่องนี้
ส่วนในเรื่องของพลังงานนิวเคลียร์ ชาวญี่ปุ่นที่เห็นว่าควรใช้พลังงานนิวเคลียร์ต่อไป กับกลุ่มที่เห็นว่าควรลดการพึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์ มีมากพอๆกันที่ราว 46%
ขณะเดียวกันมีชาวญี่ปุ่นไม่มากนักที่เห็นว่าเศรษฐกิจปัจจุบันเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการฟื้นฟูประเทศจากภัยพิบัติ โดยมีเพียง 10% ที่เห็นว่าเศรษฐกิจดี ขณะที่ 88% เห็นว่าเศรษฐกิจแย่
นอกจากนั้นมีชาวญี่ปุ่นเพียง 18% ที่เห็นว่านายกรัฐมนตรีนาโอโตะ คัง รับมือกับวิกฤตนิวเคลียร์ได้ดี ขณะที่ประชาชนมากถึง 86% เห็นว่าบริษัท โตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ (เทปโก) จัดการกับวิกฤตนิวเคลียร์ได้แย่มาก
สำหรับในเรื่องของภัยธรรมชาติโดยรวมนั้น มีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 20% ที่เห็นว่ารัฐบาลรับมือได้ดี ขณะที่ 78% เห็นว่าทำงานได้แย่มาก
ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนมาก 89% เห็นว่าสหรัฐช่วยบรรเทาทุกข์ในญี่ปุ่นได้ดี แต่มีจำนวนน้อยที่เห็นว่าสหประชาชาติ สหภาพยุโรป หรือจีน ทำได้ดีเช่นนี้ ขณะที่ความนิยมสหรัฐอยู่ที่ 85% สูงสุดนับตั้งแต่ Pew เริ่มทำแบบสอบถามเมื่อปี 2544
ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถาม 95% เห็นว่ากองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นรับมือภัยพิบัติได้ดี สำนักข่าวเกียวโดรายงาน