รัฐบาลเยอรมนีอนุมัติแผนการปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้ง 17 แห่งในประเทศภายในปีพ.ศ. 2565 ซึ่งจะทำให้เยอรมนีกลายเป็นประเทศแรกในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 8 ประเทศ หรือ จี8 ที่ยกเลิกการใช้พลังงานนิวเคลียร์ หลังจากที่เกิดวิกฤตนิวเคลียร์ในประเทศญี่ปุ่น
การตัดสินใจดังกล่าวโดยคณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคล จะช่วยเร่งให้เยอรมนียุติการใช้พลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นการคว่ำแผนการเดิมที่วางไว้ในปีที่แล้วว่าจะขยายการดำเนินงานของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีอยู่แล้ว
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รัฐบาลผสมของนางแมร์เคลมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้กฎหมายที่เกี่ยวข้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาในวันที่ 8 ก.ค.นี้ ผ่านทางการหารือกับกับพรรคฝ่ายค้าน
ภายใต้แผนการดังกล่าวนั้น โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 8 แห่ง ซึ่งรวมถึงโรงไฟฟ้าแบบเก่าที่ถูกปิดชั่วคราวนับตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคมซึ่งทำให้เกิดวิกฤตนิวเคลียร์ตามมานั้น จะถูกระงับการดำเนินงานต่อไป
ในระหว่างปี 2558 - 2564 โรงไฟฟ้านิวเคลียร์อีก 6 แห่งมีกำหนดที่จะถูกปิดตัว ขณะที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหม่ล่าสุด 3 แห่งจะถูกปิดในปี 2565
พลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดของเยอรมนี จะถูกทดแทนด้วยแหล่งพลังงานทางเลือก ซึ่งรวมถึงก๊าซธรรมชาติ พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์
สำหรับประเทศอื่นๆของยุโรปนั้น อิตาลีจะจัดทำประชามติในช่วงปลายเดือนนี้ว่าประชาชนต้องการให้ประเทศกลับมาผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์อีกหรือไม่ ขณะที่รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ได้ตัดสินใจเมื่อไม่นานมานี้ว่าจะปลดระวางโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งหมดในประเทศภายในปี 2586