ปลัด สธ.เผยยูเอ็นยกไทย 1 ใน 3 ประเทศที่ประสบความสำเร็จแก้ไขปัญหาเอดส์

ข่าวทั่วไป Friday June 10, 2011 12:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เผยที่ประชุมระดับสูงว่าด้วยโรคเอดส์( High-Level Meeting on HIV/AIDS) ซึ่งจัดขึ้นโดยองค์การสหประชาชาติ ระหว่างวันที่ 8-10 มิ.ย.54 ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้การยกย่องประเทศไทยเป็นหนึ่งในสามประเทศทั่วโลกที่ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาโรคเอดส์ แม้จะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ปีละเกือบหมื่นคน

"การประชุมครั้งนี้ผู้อำนวยการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติได้กล่าวชมเชยประเทศไทยเป็นหนึ่งในสามประเทศทั่วโลกที่ได้รับการยอมรับว่ามาตรการแก้ไขปัญหาโรคเอดส์ของไทยประสบความสำเร็จในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์" นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.กล่าว

การประชุมดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมประชุมระดับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีสาธารณสุขจาก 160 ประเทศทั่วโลก เพื่อร่วมกันจัดทำปฏิญญาใหม่และแนวทางแก้ไขปัญหาเอดส์ทั่วโลกอย่างยั่งยืน

ปลัด สธ.กล่าวว่า ครั้งนี้ไทยได้นำเสนอมาตรการแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งในรอบ 27 ปีที่ผ่านมามีความก้าวหน้าและประสบผลสำเร็จในการป้องกันโรคเอดส์ในกลุ่มประชาชนทั่วไป ภายใต้นโยบายถุงยางอนามัย 100% และการป้องกันการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก ซึ่งสามารถดำเนินการครอบคลุมหญิงตั้งครรภ์ 97%

โดยในปี 53 ไทยมีอัตราการติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 10,000 ราย และตั้งเป้าในปีนี้จะลดให้เหลือไม่เกิน 5,000-6,000 ราย ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าหมายจะให้บริการครอบคลุมผู้ป่วยโรคเอดส์รายใหม่ รวมทั้งกลุ่มชายรักชาย กลุ่มขายบริการทางเพศ กลุ่มฉีดยาเสพติดเข้าเส้นให้ได้ 90% ภายใน 5 ปี และกำหนดวิสัยทัศน์สู่เป้าหมายที่เป็นศูนย์ 3 ประการ ได้แก่ ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ไม่มีผู้ติดเชื้อเสียชีวิตจากโรคเอดส์ และไม่มีการเลือกปฏิบัติ โดยยุทธศาสตร์การป้องกันที่สำคัญจะเน้นการทำงานในกลุ่มประชากรและพื้นที่ที่คาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนมาก ตลอดจนจัดตั้งกองทุนป้องกันฯ

สำหรับสถานการณ์โรคเอดส์ของไทย ตั้งแต่ปี 27 จนถึงเดือน มี.ค.54 มีผู้ป่วยโรคเอดส์ 372,874 คน เสียชีวิตแล้ว 98,153 คน โดยผู้ป่วย 84% ติดเชื้อมาจากการมีเพศสัมพันธ์, 4% ติดเชื้อจากฉีดยาเสพติดเข้าเส้น และ 3.6% ติดเชื้อจากแม่ ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อเอชไอวีทั่วโลก องค์การเอดส์แห่งสหประชาชาติรายงานว่า ในปี 52 มีผู้ติดเชื้อทั่วโลก 33.3 ล้านคน เสียชีวิต 1.8 ล้านคน และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2.6 ล้านคน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ