โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยนายกรัฐมนตรีมอบ 3 แนวทางให้คณะทำงานชี้แจงต่อคณะกรรมการมรดกโลก โดยกำชับให้คำนึงถึงอธิปไตยและดินแดนของประเทศเป็นสำคัญ ด้านหัวหน้าคณะผู้เจรจามรดกโลกฝ่ายไทยย้ำจุดยืนเลื่อนการพิจารณาแผนบริหารจัดการพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบปราสาทพระวิหาร
"นายกรัฐมนตรีได้กำชับคณะทำงานจะต้องทำให้เกิดผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ ไม่ให้เสียผลประโยชน์อธิปไตยและดินแดน" นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลประชุมนัดพิเศษ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังชื่นชมบทบาทของยูเนสโก ทั้งในส่วนของผู้แทนพิเศษและเลขาธิการยูเนสโกที่พยายามทำงานอยู่บนพื้นฐานความเป็นกลาง และในฐานะที่ไทยเป็นสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลกจะต้องทำตามเงื่อนไข โดยไทยจะจัดทำบทสรุปดังกล่าวไปชี้แจงต่อคณะกรรมการมรดกโลก โดยก่อนการประชุมในวันที่ 17-18 มิ.ย.นี้ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะผู้เจรจามรดกโลกฝ่ายไทย จะไปหารือนอกรอบกับตัวแทนกัมพูชา และรายงานผลให้ทราบเป็นระยะๆ ซึ่งเชื่อว่าแนวโน้มน่าจะดีขึ้น
ด้านนายสุวิทย์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้อวยพรให้คณะทำงานประสบความสำเร็จในการเดินทางไปร่วมประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งจุดยืนของไทยต้องการให้เลื่อนการพิจาณาแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารออกไปก่อนจนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องการปักปันเขตแดนของทั้ง 2 ประเทศ
"ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีการเลื่อนแผนบริหารจัดการออกไปหรือไม่ เพราะกัมพูชายืนยันไม่ยอมให้เลื่อนแผนดังกล่าวออกไป จะต้องไปพูดคุยกันก่อนจะมีการประชุมในวันที่ 19 มิถุนาฯ" นายสุวิทย์ กล่าว
นายสุวิทย์ กล่าวว่า นายกฯ ได้ยืนยันไม่มีการเสนอให้ถอนชื่อเขาพระวิหารออกจากการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกตามที่กัมพูชาออกแถลงการณ์ ซึ่งจะขอให้กระทรวงการต่างประเทศทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะประชุมกันอีกครั้งหนึ่งในวันพรุ่งนี้(16 มิ.ย.) ก่อนเดินทางไปประชุมคณะกรรมการมรดกโลก และในการประชุมคณะกรมการมรดกโลกครั้งนี้ ไทยจะเสนอขอตัวเป็นเจ้าภาพคณะกรรมการมรดกโลกครั้งต่อไปที่ จ.ภูเก็ต