ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังเป็นประธานในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) เพื่อการจราจรและความปลอดภัย ตัวที่ 10,000 ณ บริเวณลาน Victory Point อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิว่า หลังจากนี้กรุงเทพมหานครจะเร่งดำเนินการติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อลดจุดเสี่ยงในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ เพิ่มเป็น 20,000 ตัวภายในปี 2555 ครอบคลุมจุดเปลี่ยนถ่ายการเดินทาง สถานศึกษา ชุมชน ตลาด สถานที่อันตราย โรงพยาบาล ศูนย์สาธารณสุข สถานที่ราชการ และอื่นๆ
พร้อมบูรณาการกับกล้องวงจรปิดของภาคเอกชนและหน่วยงานอื่นๆ กว่า 200,000 ตัว เพื่อเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังอันตราย โดยเชื่อมโยงสัญญาณภาพไปยังศูนย์อำนวยการเขต 50 เขต สถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่ ผ่านเครือข่ายใยแก้วนำแสง แล้วส่งต่อข้อมูลไปยังศูนย์ควบคุมบริหารจุดเสี่ยงและระบบความปลอดภัย ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ซึ่งสามารถเชื่อมต่อสัญญาณกับหน่วยงานภายในกรุงเทพมหานครและหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองอำนวยการร่วมพิเศษเฉพาะกิจ
ทั้งนี้ กล้อง CCTV ที่ติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆ สามารถบันทึกข้อมูลความผิดปกติและนำมาตรวจสอบเหตุการณ์ย้อนหลัง ไม่ว่าจะเป็นคดีอาชญากรรมและเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในพื้นที่เสี่ยงภัยและแหล่งชุมชน
"ล่าสุดเหตุการณ์สะเทือนขวัญขณะรถพุ่งชน พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือหมอมุก เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ถูกบันทึกไว้วินาทีต่อวินาทีด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV ที่กรุงเทพมหานครติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับกรณีชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย อุบัติเหตุ และเหตุการณ์ทางการเมือง รวมกว่า 650 เหตุการณ์ที่กล้อง CCTV จับภาพไว้ได้ และนำไปสู่การคลี่คลายคดีในที่สุด ภาพจากกล้อง CCTV จึงกลายเป็นหลักฐานสำคัญ ที่ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถคลี่คลายคดีสำเร็จโดยเร็ว"ผู้ว่าการ กทม.กล่าว