นายกรัฐมนตรีนาโอโตะ คัง ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นจะร่างแผนลดการพึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์ หลังเกิดวิกฤตที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ไดอิจิ
ขณะเดียวกันรัฐบาลได้รวบรวมมาตรการรับมือปัญหาขาดแคลนพลังงานที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตนิวเคลียร์ ด้วยวิธีแก้ปัญหาต่างๆ อย่างการแยกการผลิตและส่งไฟฟ้าออกจากกัน แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม
แผนการดังกล่าวได้รับความเห็นชอบในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่าด้วยเรื่องปัญหาพลังงาน และรัฐบาลตั้งเป้าว่าจะรวบรวมนโยบายพลังงานพื้นฐานซึ่งอ้างอิงจากแผนการดังกล่าวให้ได้ภายในสิ้นปีนี้
การวางแผนด้านพลังงานของญี่ปุ่นอยู่ในภาวะสับสนนับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวและสึนามิทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ญี่ปุ่นใช้พลังงานนิวเคลียร์ในการผลิตกระแสไฟฟ้าราว 30% ของการผลิตกระแสไฟฟ้าทั้งหมดในประเทศ และมีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เชิงพาณิชย์ 54 เตา
เดิมทีนโยบายพลังงานพื้นฐานของญี่ปุ่นที่ได้รับการรับรองเมื่อเดือนมิถุนายน 2553 ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มสัดส่วนการพึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์สู่ระดับ 53% ภายในปี 2573 แต่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่ารัฐบาลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยกเลิกแผนดังกล่าวหลังเกิดวิกฤตนิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ซึ่งทำให้สาธารณชนวิตกกังวลเรื่องความปลอดภัยของพลังงานนิวเคลียร์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน