นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือขณะนี้ทำให้ถนนในจังหวัดหนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ เสียหายไม่มากนัก แต่ที่จังหวัดเชียงใหม่ และพิษณุโลก น้ำยังคงท่วมถนนอยู่ 6 สายทาง แบ่งเป็น ที่จังหวัดเชียงใหม่ 5 สายทาง โดยมีสายทางที่เสียหายรุนแรงที่สุด คือ ถนนหมายเลข 1230 คอสะพานชำรุด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งซ่อมแซมอยู่ และจังหวัดพิษณุโลก 1 สายทาง ถนนหมายเลข 1234 มีปริมาณน้ำท่วมสูงมาก อยู่ระหว่างรอน้ำลดเจ้าหน้าที่จะเข้าไปซ่อมแซมทันที เพื่อให้ประชาชนสัญจรได้ชั่วคราวก่อน
ทั้งนี้ ตนเองได้สั่งการให้แขวงการทางในทุกพื้นที่เตรียมพร้อมทั้งเครื่องมือ และกำลังคน ช่วยเหลือประชาชนได้ทันที ทั้งในส่วนของการนำสะพานเหล็ก ซ่อมแซมถนนชั่วคราว เพื่อให้สัญจรผ่านได้ รวมทั้งเตรียมรถขนเสบียงอาหารกรณีที่น้ำท่วมจนประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถออกจากบ้านได้ ส่วนมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 80-100 ล้านบาท
ด้านนายวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 28 ก.ค.-1 ส.ค.นี้ มีถนนในความรับผิดชอบได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมรวม 6 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ หนองคาย และเลย โดยมีถนนที่ถูกน้ำท่วมรวม 15 สายทาง สามารถสัญจรผ่านได้ จำนวน 12 สายทาง สัญจรผ่านไม่ได้ จำนวน 3 สายทาง โดยในเส้นทางนี้ยังมีถนนที่น้ำท่วมอยู่ 5 สายทาง น้ำลดแล้ว 10 สายทาง
ส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้นั้น กรมทางหลวงชนบทยังมีงบฉุกเฉินที่สามารถนำไปใช้ได้ก่อน เบื้องต้นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเป็นค่าใช้จ่ายน้ำมัน และเบี้ยเลี้ยงบุคลากร โดยแขวงการทางกรมทางหลวงประจำแต่ละจังหวัดจะมีงบฉุกเฉินไว้ใช้จ่ายประมาณ 2 ล้านบาท อย่างไรก็ตามหากเครื่องจักรและวัสดุไม่พอสามารถโอนจากแขวงการทางใกล้เคียงได้ โดยหลังจากน้ำลดแล้วกรมทางหลวงชนบทจะได้เข้าไปตรวจสอบและซ่อมบำรุงถนนต่อไป