นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระบุว่า อิทธิพลของพายุโซนร้อน“นกเตน" (NOCK—TEN) ที่เกิดบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางเคลื่อนตัวผ่านเกาะไหหลำและอ่าวตังเกี๋ย ขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน เข้าสู่ประเทศลาวและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2554 จนถึงปัจจุบัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 ราย (จ.อุดรธานี 1 ราย จ.เชียงใหม่ 2 ราย จ.แพร่ 6 ราย จ.แม่ฮ่องสอน 7 ราย จ.สุโขทัย 2 ราย จ.นครพนม 2 ราย) สูญหาย 1 คน บาดเจ็บ 11 คน (จ.แม่ฮ่องสอน สาเหตุจากดินโคลนถล่ม)
อิทธิพลของพายุดังกล่าวส่งผลกระทบในพื้นที่และประกาศ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) รวม 21 จังหวัด 155 อำเภอ 893 ตำบล 6,809 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดแพร่ เชียงใหม่ สุโขทัย น่าน ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก ตากนครสวรรค์ นครพนม อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร เลย เพชรบูรณ์ ประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
มีราษฎรได้รับความเดือดร้อน 339,148 ครัวเรือน 1,139,990 คน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 217 หลัง พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหาย 619,723 ไร่ ถนน 1,085 สาย ท่อระบายน้ำ 115 แห่ง ฝ่าย/ทำนบ 20 แห่ง สะพาน/คอสะพาน 72 แห่ง บ่อปลา/บ่อกุ้ง 558 บ่อ ปศุสัตว์ 474 ตัว
ปัจจุบัน จังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยทั้งสิ้น 17 จังหวัด 132 อำเภอ 786 ตำบล 6,270 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 320,043 ครัวเรือน 1,114,475 คน ได้แก่ จังหวัดแพร่ สุโขทัย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก ตาก นครสวรรค์ นครพนม อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร เพชรบูรณ์ และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา