อังกฤษประเมินความเสียหายในหลายเมืองนอกกรุงลอนดอนในช่วงเช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หลังเกิดการจลาจลเมื่อคืนที่ผ่านมา
ถนนหนทางในกรุงลอนดอนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมากถึง 16,000 นายคอยป้องกันไม่ให้เกิดการจลาจลเป็นคืนที่ 4 แต่ในเมืองแมนเชสเตอร์ทางตอนเหนือของประเทศกลับเกิดความวุ่นวายอย่างหนัก เมื่อผู้ก่อความไม่สงบร่วม 2,000 คน ได้ทำลายกระจกร้านค้า ขว้างระเบิดขวดใส่ร้านค้า และขโมยของ
เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมงรับมือกับเหตุการณ์ และมีการจับกุมผู้กระทำผิด 108 คน พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ผู้ก่อความไม่สงบบางส่วนมาจากแก๊งอาชญากรรมที่ตั้งใจมาขโมยของตามร้านค้าต่างๆ
หลังการก่อความไม่สงบในแมนเชสเตอร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งกล่าวว่า "นี่เป็นการก่ออาชญากรรมที่ไร้เหตุผลที่สุดแบบที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน พวกนั้นประท้วงโดยไม่มีเหตุผล ไม่มีแรงจูงใจ ผมและทุกคนสลดใจกับการกระทำที่น่าละอายของอาชญากรพวกนี้"
ในเมืองใกล้เคียงอย่างซัลฟอร์ด ผู้ก่อความไม่สงบได้ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จุดไฟเผารถยนต์และอาคารบ้านเรือน
ส่วนในเมืองเบอร์มิงแฮมทางตอนกลางของประเทศ รวมถึงเมืองใกล้เคียงอย่างเวสต์บรอมวิชและวูล์ฟแฮมป์ตัน ก็มีการขโมยของ ก่อความวุ่นวาย และวางเพลิง
ในเมืองน็อตติงแฮม ผู้ก่อความไม่สงบขว้างระเบิดขวดใส่สถานีตำรวจ ส่วนในเมืองลิเวอร์พูลทางตอนเหนือมีการจับกุมผู้ก่อความไม่สงบ 50 ราย และในเมืองกลูเชสเตอร์ทางตะวันตกของประเทศมีการจับกุมวัยรุ่น 9 คนที่ขว้างขวดและหินใส่ตำรวจ
ในเมืองเลสเตอร์ทางตอนกลางของประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปะทะกับกลุ่มวัยรุ่นราว 100 คนที่ขว้างหินใส่ตำรวจ
ขณะที่ในภาคเวสต์มิดแลนด์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ก่อความไม่สงบ 109 คน และกำลังสืบสวนกรณีการเสียชีวิตของชายชาวเอเชีย 3 คนที่ถูกรถชนในย่านวินสันกรีนเมื่อช่วงเช้า โดยสื่อรายงานว่าชายทั้งสามอาจออกมาปกป้องย่านที่อยู่อาศัยของตนเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ การจลาจลครั้งใหญ่ในอังกฤษปะทุขึ้นหลังจากที่ มาร์ค ดักแกน วัย 29 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิตขณะพยายามเข้าจับกุมกรณีพัวพันกับอาวุธปืน เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว และมีรายงานว่าดักแกนถือปืนผิดกฎหมายตอนที่ถูกตำรวจลอนดอนยิง 2 นัด สำนักข่าวซินหัวรายงาน