มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย เรียกร้องให้กลุ่มผู้สนับสนุนเตรียมความพร้อมที่จะเดินหน้ามาตรการปลดแอกเมืองต่างๆที่ขณะนี้โดนกลุ่มต่อต้านเข้ายึดครอง
“เดินหน้า ท้าทาย จับอาวุธ และออกไปต่อสู้เพื่อปลดปล่อยทุกตารางนิ้วของลิเบียจากพวกกบฎและนาโต" พลเอกกัดดาฟีที่กำลังเผชิญสถานการณ์ลำบากประกาศทางทางสถานีโทรทัศน์ลิเบีย
“พร้อมรบ...สายเลือดในกายผู้กล้าคือเชื้อเพลิงเติมไฟสู้ศึก" กัดดาฟีกล่าว โดยผู้ประกาศรายงานว่าเป็นการกล่าวสุนทรพจน์สด
อย่างไรก็ตาม เสียงที่ออกมากลับมีคุณภาพแย่ และข้อความหลายส่วนก็ไม่ได้ยิน ซึ่งสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวชี้แจงว่าเป็นปัญหาด้านเทคนิค
ขณะที่สำนักข่าวจานาได้ตีพิมพ์บทคัดย่อของสุนทรพจน์ดังกล่าวว่า ซึ่งกัดดาฟีกล่าวว่า จุดจบของพวก “หนู" และ “นักล่าอาณานิคม" กำลังใกล้เข้ามาแล้ว โดยหมายถึงกลุ่มต่อต้านและกองกำลังนาโต
ด้านสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ข้อความเรียกร้องของกัดดาฟีออกมาท่ามกลางกระแสข่าวลือว่าเขากำลังจะถูกเนรเทศ อย่างไรก็ดี ผู้นำลิเบียซึ่งมีอำนาจปกครองประเทศในแอฟริกาเหนือแห่งนี้มายาวนานถึง 41 ปี ลั่นวาจาว่าจะไม่มีวันเดินทางออกจากมาตุภูมิอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน เมื่อไม่นานมานี้ กองกำลังโค่นล้มกัดดาฟีสามารถตีฝ่าแนวป้องกันและขยับเข้าใกล้เมืองหลวงเข้าไปอีก
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กลุ่มต่อต้านประกาศว่า พวกเขาพิชิตกองกำลังทหารฝ่ายกัดดาฟีในนครซาวิยาห์และได้เข้ายึดเมืองยุทธศาตร์ที่ตั้งอยู่ห่างจากกรุงทริโปลีออกไปทางตะวันตกเพียง 40 กม.เท่านั้น ก่อนที่รัฐบาลลิเบียจะออกมาปฏิเสธ
ซาวิยาห์เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ เนื่องจากตั้งอยู่บนทางหลวงเชื่อมระหว่างเมืองหลวงกับประเทศตูนิเซีย ซึ่งเป็นที่พึ่งสำคัญในการต่ออายุรัฐบาลลิเบีย
ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ลิเบียต้องเผชิญกับสถานการณ์รุนแรงภายในประเทศซึ่งคุกคามตั้งแต่ฝั่งตะวันตกของเอเชียและตอนเหนือของแอฟริกา โดยเมื่อเดือนมี.ค. กองกำลังทหารจากอาหรับและชาติตะวันตกได้ร่วมมือกันในนามของสหประชาชาติและเข้าแทรกแซงเพื่อปกป้องพลเมืองชาวลิเบีย ก่อนที่ในสัปดาห์ต่อมา กองกำลังนาโต้จะเป็นผู้ลงมือปฏิบัติการด้วยตัวเอง