รัฐหลุยเซียนาและรัฐมิสซิสซิปปีของสหรัฐ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหลังจากพายุโซนร้อน "ลี" เคลื่อนตัวออกจากพื้นที่ทางตอนเหนือของอ่าวเม็กซิโก ซึ่งอิทธิพลของพายุทำให้เกิดลมกรรโชกรุนแรงและมีฝนตกหนัก
ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐคาดว่า พายุลีจะเคลื่อนตัวถึงชายฝั่งรัฐหลุยเซียนาในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่นายบ็อบบี จินดัล ผู้ว่าการรัฐหลุยเซียนาได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและเตือนให้ประชาชนเตรียมรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเกรงว่าพายุลีทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในพื้นที่ชายฝั่งของรัฐ
"ประสบการณ์ในอดีตสอนให้เราเรียนรู้วิธีการเตรียมพร้อมที่ดีที่สุดเพื่อรับมือกับวิกฤตที่รุนแรง และยังสอนให้เราคาดหวังในสิ่งที่ดีที่สุดด้วย นับตั้งแต่ย่างเข้าสู่ฤดูพายุเฮอริเคนในปีนี้ ประชาชนในรัฐหลุยเซียนาก็ตื่นตัวในการป้องกันตัวเองและครอบครัว เพื่อรับมือกับพายุลูกใหญ่ที่จะเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งของเรา" นายจินดัลกล่าว
ด้านนายฮาลีย์ บาร์เบอร์ ผู้ว่าการรัฐมิสซิสซิปปีก็ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 7 เขตที่ตั้งอยู่ชายฝั่งของรัฐ ซึ่งรวมถึงเขตจอร์จ เขตแฮนค็อค เขตแฮร์ริสัน และเขตสโตน และยังเตือนให้ประชาชนเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับภาวะน้ำท่วมหนัก โดยนายบาร์เบอร์กล่าวว่า แม้พายุลียังไม่ทวีความรุนแรงจนกลายเป็นเฮอริเคน แต่รัฐมิสซิสซิปปีจะไม่ประมาทต่อผลกระทบรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของสำนักงานจัดการด้านพลังงานในมหาสมุทรของสหรัฐว่า อิทธิพลของพายุลีส่งผลให้บริษัทพลังงานหลายแห่งต้องอพยพคนออกจากฐานการผลิตและแท่นขุดเจาะในภูมิภาคดังกล่าว ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกลดลงเกือบครึ่งหนึง และยังทำให้การผลิตก๊าซธรรมชาติลดลง 1 ใน 3