ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการแก้ไขปัญหายาเสพติดวันที่ 11 ก.ย.นี้ พร้อมมอบหมายให้ตนเป็นผู้อำนวยการปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ภายใต้ยุทธศาสตร์ "พลังแผ่นดิน เอาชนะเสพติด" ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นวาระแห่งชาติ โดยจะเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันของ 6 กระทรวง 20 กรม
ทั้งนี้ จะเน้นการทำงานเชิงรุก แต่ยึดหลักนิติรัฐควบคู่นิติธรรม พร้อมย้ำว่าสมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการกล่าวหาว่าใช้วิธีการฆ่าตัดตอนมาปราบปรามยาเสพติดนั้น ไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าหนักใจที่ได้รับมอบหมายงานนี้ แต่ก็พร้อมที่จะทำงานตามที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่
"หนักใจที่ได้รับมอบหมายตำแหน่งนี้ แต่ก็ดีใจที่ได้ใช้ความสามารถที่ได้ทำมาในอดีต เรื่องนี้เป็นภารกิจที่ยาก แต่ต้องทำให้ได้" รองนายกฯ กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า จะมีการเดินทางไปติดตามปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ เพราะพบว่า 87% ของยาเสพติดทั้งหมดมีแหล่งที่มาจากทางภาคเหนือ ซึ่งหากสามารถสะกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดนได้ ก็จะมีส่วนช่วยลดปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดได้ โดยขณะนี้ปัญหายาเสพติดที่แพร่ระบาดมากที่สุด คือ ยาบ้า และยาไอซ์
อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายว่าควรจะเปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและรายงานสถานการณ์ยาเสพติดตลอด 24 ชม. พร้อมให้นโยบายว่า กรณีนักโทษในคดียาเสพติดที่มีความประพฤติดีและเหลือการรับโทษอีกเพียง 6 เดือน - 1 ปีนั้น ควรให้บุคคลเหล่านี้เข้ามาบำบัดรักษาภายในโรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง ซึ่งจะไปหารือให้กองทัพและกระทรวงสาธารณสุขช่วยดำเนินการในจุดนี้ด้วย
นอกจากนี้ จะวางหลักเกณฑ์การให้รางวัลนำจับแก่เจ้าหน้าที่ รวมทั้งจะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด โดยจะมีการเพิ่มโทษสำหรับผู้ค้ายาเสพติดที่นอกจากจะถูกดำเนินคดีแล้วยังต้องถูกยึดทรัพย์ด้วย